MICHELIN PLATE 2018, 2019, 2020
Indian Restaurant in the MICHELIN BANGKOK Guide

Miledayกินเที่ยว365วัน ถึงคิวฮอตความอร่อยอินเดียนสไตล์ จัดจ้านเครื่องเทศ สูตรแท้ต้นตำรับ แห่งลุ่มแม่น้ำสินธุ ที่ร้าน Indus (อินดัส) ซอยสุขุมวิท 26 เอาใจคนที่หลงใหลความหอมหวล ถึงรสเครื่องเทศอาหารอินเดีย การันตีความอร่อยโดยเชฟมือรางวัลระดับประเทศจากหลากหลายเวที ขนาดMICHELIN Guide คงมาตราฐานรสชาติต้นตำรับไว้อย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลงมากว่า 16 ปี ด้วยความพิถีพิถันคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ไปจนถึงกรรมวิถีการปรุงรสแท้ฉบับดั้งเดิม ซึ่งคุณจะสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งอาหารดินแดนภารตะที่ต่างไปจากที่คิด หากได้มาเยือน..อินดัส..แล้วลิ้มรสด้วยตัวเอง

การเดินทางนั้นแสนสะดวกด้วยรถไฟฟ้าBTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 26 ร้านจะอยู่กลางซอย เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สองชั้นสีขาวทรงวินเทจ มีบริการที่จอดรถด้านหน้า เพียงคุณเปิดประตูไม้โบราณแล้วก้าวเท้าเข้ามา คุณจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นอินเดียร่วมสมัยที่ถูกเติมแต่งไว้รอบๆ บ้าน ด้วยภาพวาดบุคคลสำคัญในราชวงศ์โมกุล และของตกแต่งสไตล์อินเดียอย่างมีเอกลักษณ์

ที่ร้านแบ่งห้องออกเป็น 3 โซน ห้องแรกเสมือนห้องรับแขกของบ้าน มีมุมที่นั่งไว้ให้เลือกอยู่หลายมุม ไม่ว่าจะมาคู่หรือมาทั้งครอบครัวก็ลงตัว เดินเข้ามาด้านในจะเป็นห้องใหญ่อีกห้องมาพร้อมมุมบาร์เล็กๆ ไว้คอยบริการเครื่องดื่มอย่างใกล้ชิด อีกห้องด้านหน้าทางเข้าจะเป็นสำหรับจัดเลี้ยง หรือประชุม หากใครชอบรับลมธรรมชาติ เลือกนั่งชมวิวสวนด้านนอกก็ชิลล์ดี 

Indus (อินดัส) ชื่อร้านที่มีความหมายมาจากชื่อภาษาอังกฤษแห่งลุ่มแม่น้ำสินธุในเทือกเขาหิมาลัยของประเทศทิเบต ที่ไหลผ่านทั้งแคชเมียร์ ปัญจาบ และปากีสถาน ทางภาคเหนือของอินเดีย ด้วยพื้นเพครอบครัวเจ้าของร้านมาจากภูมิภาคนี้ก่อนที่ย้ายมาอยู่ในประเทศไทย เอกลักษณ์เมนูอาหารที่เสิร์ฟของที่ร้านจึงได้รับอิทธิพลจากภูมิภาคนี้ ทั้งวัตถุดิบ และกรรมวิธีการทำ จึงมีรสชาติเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัว ดั่งเช่นอาหารภาคเหนือภาคใต้ของบ้านเรา ที่มีเสน่ห์ของรสชาติอาหารที่ต่างกัน 

หากคุณอยากสัมผัส Indus ให้มากขึ้น คงต้องมาทำความรู้จักกับ คุณสิธ สิธธัตถะ เซกาล – เจ้าของร้านนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่เชื้อสายอินเดียที่เกิดและเติบโตในไทย ได้ไปศึกษาต่อที่นิวยอร์ก มีโอกาสได้ลองชิมอาหารอินเดียจากหลายแห่งทั่วโลก ทำให้พบว่าอาหารอินเดียแต่ละที่ถูกนำเสนออย่างไม่ถูกต้อง จึงจุดประกายไอเดียให้หันมาสนใจทำธุรกิจร้านอาหาร โดยนำเสนอรสชาติอาหารอินเดียที่แท้จริง คุณสิธจึงตัดสินใจกลับมาปรับปรุงร้านอาหาร The Whole Earth เดิม เป็นร้านใหม่ ชื่อ Indus ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น และเน้นเสน่ห์รสชาติอาหารพื้นถิ่นดั้งเดิมทางภาคเหนือของอินเดียเป็นหลัก

ซิกเนเจอร์เมนูแรก ที่เราจะพาทุกคนมาดื่มด่ำความเป็นอินเดียนสไตล์ในค่ำคืนนี้ เริ่มต้นที่ออเดิร์ฟกันก่อน 

Papdi Chaat (delhi)

ข้าวเกรียบเรียกน้ำย่อย ทำมาจากแป้งถั่ว ทอดจนกรอบฟู โรยหน้าด้วยถั่วลูกไก่ หรือ ถั่วชิคพี (Chick Pea) มันฝรั่ง โยเกิร์ต เสิร์ฟพร้อมซอสมิ้นต์ ซอสมะขาม ซอสเสาวรส ให้เลือกดิป หรือจะแกล้มตามด้วยหอมแดงดอง หลากหลายรสชาติ ทั้งหวาน เปรี้ยว ซ่า เมนูทานเล่นยอดนิยม ต้นกำเนิดมาจากเมืองนิวเดลี หาทานได้ตามสตรีทฟู้ดตามเมืองต่างๆ ในอินเดีย

Tandoori Course Menu (Punjab)

เมนูยอดนิยมของคนอินเดีย คงต้องยกให้อาหารประเภททันดูรี (Tandoori) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองสไตล์บาร์บีคิว ย่างในเตาทันดูร์ เป็นเตาดินเผาเตาหรือโลหะ ลักษณะเหมือนโอ่งหรือไหที่จุดไฟให้ความร้อนอยู่ด้านล่าง มีต้นกำเนิดมาจากรัฐปัญจาบ (Punjab) ด้วยภูมิประเทศที่มีเเม่น้ำมาบรรจบกันถึง 5 สาย จึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วย วัตถุดิบชั้นเลิศอย่าง ไก่ กุ้ง ปลา ผัก นม ชีส ครีม โยเกิร์ต และยังหารับประทานได้ทั่วไปในบ้านหรือร้านอาหารของคนอินเดีย

เมนูเด่นอินดัสซิกเนเจอร์ทันดูรี (Tandoori) ที่เราไม่อยากให้คุณ ห้ามพลาด!! ลิ้มลอง มีด้วยกัน 3 เมนู

Tandoori Creamy Broccoli

บร็อคโคลี่ สดใหม่จากโครงการหลวงหมักกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์บด ครีมชีส โยเกิร์ต ปรุงด้วยผงกระวานย่าง ก่อนนำไปย่างในเตาทันดูร์ ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มมาก หอมกลิ่นครีมชีส และเครื่องเทศอ่อนๆ กลิ่นไหม้นิดๆ

 Kebab-E-Malai

เนื้อไก่ หมักด้วยครีมชีส โยเกิร์ต ผงกระวาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และเครื่องเทศของอินเดีย ก่อนนำไปย่างในเตาทันดูร์ ให้ความหอม เนื้อนุ่ม หนึ่งในอาหารจานด่วนยอดฮิตของอินดัส  

Tandoori Tiger Prawns

กุ้งลายเสือตัวโต หมักกับเครื่องเทศของอินเดีย น้ำมันมัสตาร์ด ใบฟีนูกรีก (Fenugreek) และโยเกิร์ต ก่อนนำไปย่างในเตาทันดูร์ เพิ่มความหอมให้เนื้อกุ้งแน่นๆ นุ่มๆ เข้ากันได้ดีกับเครื่องเทศรสจัดจ้าน 

Raan Sikandari (Indus Valley)

เมนูแกะย่างสูตรอินดัสต้นตำรับ เลือกในส่วนน่องส่งตรงวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มที่ทางร้านคัดสรรด้วยตัวเองมานานถึง 15 ปี มีเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การนำน่องแกะมาหมักข้ามคืน ถึง 12 ชม. แล้วนำไปตุ๋นต่ออีก 7 ชม. ก่อนนำน่องแกะไปย่างด้วยไฟอ่อนๆ จนเนื้อแกะสุกนุ่ม ละลายในปาก ไม่มีกลิ่นสาปกวนใจ หอมกลิ่นเครื่องเทศมาแทน และเพื่อให้ได้อรรถรสในการทานในแบบอินเดีย เราต้องใช้มือเปิปคู่กับแป้งนาน ดิปโยเกิร์ตเพิ่มรสชาติอีกนิด แล้วคุณจะติดใจ

Main Course

Butter Chicken (delhi, lucknow)

ถึงช่วงเวลาของเมนคอร์ส เริ่มต้นความอร่อยมาลอง แกงกระหรี่ ในรสชาติอาหารภาคเหนือ ทำมาจากไก่รมควันย่าง เคี่ยวในน้ำเกรวี่ มะเขือเทศและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ราดท็อปปิ้งด้วยเนยและครีม เนื้อไก่ย่างที่มีรสนุ่มกับน้ำซุปเนื้อเข้มข้น หอม มัน รสจัดจ้านเครื่องเทศ ยิ่งทานคู่แป้งนาน จิ้มๆ จุ่มๆ ยิ่งอร่อย

Palak Paneer

ผักโขมอบชีส นำมาสับใส่ครีม ผัดกับคอทเทจชีส (Cottage Cheese) โฮมเมดที่ทางร้านทำเอง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ให้รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อมากขึ้น และยังได้รสสัมผัสเวลาทานเจอชีสกรุบกริบ หอมนวลๆ ยิ่งทานตอนร้อนยิ่งอร่อย

Khatte Baingan

แกงมะเขือม่วงเผา นำมะเขือม่วงลูกกลมไปเผาเพิ่มความหอม แล้วมาปรุงรสด้วยหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ โยเกิร์ต และเครื่องเทศอินเดีย เคี่ยวจนเนื้อซุปข้น ให้รสหอม หวาน ซ่อนรสเปรี้ยวนิดๆ ทานคู่กับแป้งนาน 

Murgh Dum Biryani (Lucknow)

ข้าวหมกไก่ สูตรพิเศษจากรัฐลัคเนา (Lucknow) จะออกสีเหลืองอ่อนๆ จากเครื่องเทศของทางภาคเหนือ เป็นข้าวหอมบาสมาติ กับไก่หมักเครื่องเทศ โรยด้วยหอมเจียวกับหญ้าฝรั่น ก่อนนำไปอบให้หอมในหม้อทองเหลือง ปิดผนึกด้วยแป้ง เวลาทานเราจะค่อยๆ ผ่าแป้งออก คุณจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยเย้ายวนชวนหิวขึ้นมาทันตา 

Naan Bread

ขนมปังนาน วัฒนธรรมอาหารอินเดียนิยมทานนานกับเมนูแกงทุกชนิด นานเป็นแผ่นแป้งบางๆ ใช้อบหรือทอด เรียกขานกันอยู่หลายชื่อ ทั้ง นาน จาปาตี โรตี แต่ทุกคนจะคุ้นกับแป้งโรตีมากกว่า ต่างกันที่วิถีการทำ มีทั้งบางและหนา แต่อันที่เราทานวันนี้ เรียกว่า “นาน” ไม่ใช่กินกันนานนะคะ เวลาทานจะเปิปมือเป็นหลัก ฉีกเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำไปจุ่มกับเมนูแกงอย่างเอร็ดอร่อย ที่ร้านอินดัสมีนานให้เลือกทานอยู่หลายแบบ นานกะเทียม นานออริจินัล ไปจนถึงนานยักษ์ แบ่งกันกินได้ทั้งโต๊ะ

Gulab Jamun Flambé (delhi)
ขนมหวานสุดคลาสสิกของอินเดีย กุหลาบจามุน ทำมาจากนมเคี่ยวให้แห้ง แล้วนำไปทอด จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเชื่อมผสมน้ำกุหลาบ ไฮไลท์เมนูนี้อยู่ที่การ “โชว์ลีลาเล่นไฟจากไอริชวิสกี้” แบบติดขอบโต๊ะ ขนมมีรสชาติหวานนำมากๆ เหมาะกับทานคู่กับชา Masala Chai Tea จะช่วนลดทอนความหวานลงได้

Phirni
ตบท้ายขนมหวานอีกเมนู พุดดิ้งข้าว โรยหญ้าฝรั่น และกระวานเขียว เสิร์ฟให้ทานแบบเย็นๆ ได้รสชาติและความหอมของกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ เป็นเมนูของหวานที่ได้ดูแลสุขภาพไปในตัว  

Ayurvedic Chai

จบคอร์สมื้อค่ำแสนอร่อยด้วยการจิบ ชาร้อนอายุรเวชชัย สูตรพิเศษของคุณแม่เจ้าของร้าน อุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากสมุนไพร อย่าง ใบโหระพา ขิง กานพูล กระวาน เมล็ดยี่หร่า น้ำผึ้ง ช่วยในเรื่องการดูแลสุขภาพจากภายใน ตัวช่วยหลังมื้ออาหารทำให้ระบบการย่อยทำงานดีขึ้น แถมรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

MILEDAY365 บอกโปร

Weekend Brunch at Indus ใช้ช่วงเวลาวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ อิ่มอร่อยไปกับชุดบุฟเฟ่ต์เซต ในราคาเพียงคนละ 950 baht++ ช่วงเวลา 11.00 – 15.00 น.
(kids below 5 years eat for free & 50% discount for kids of 5-12 years)

ดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงดนตรีสด ในค่ำคืน Ladies Night ทุกวันพฤหัส จากวง Yada Petite Gomez – The Voice พร้อมกับจิบค็อกเทลสูตรพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 50% ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป

เราส่วนลด 20% ทุกรายการเมื่อสั่งอาหาร Direct Delivery

สำหรับคนที่ชอบทานอาหารอินเดีย หรืออยากเปิดใจลิ้มลองเมนูใหม่ๆ ในรสชาติที่จัดจ้านเครื่องเทศ อินดัสดึงเอกลักษณ์รสชาติอาหารอินเดียทางภาคเหนือออกมาสื่อความหมายให้เราได้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เหมือนเราได้ออกเดินทางอีกครั้งผ่านเมนูอาหาร 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-258-4900, 086-339-8582
www.indusbangkok.com, www.cateringbyindus.com
FB : www.facebook.com/indusbkk/
LINE @indus
WhatsApp us at: 086-339-8582
IG : @indusbkk

• Facebook
• Twitter
• Line

Tags: IndusMileday365Miledayกินเที่ยว365วันกินเที่ยว365วันร้านอาหารอินเดียอินดัสอินเทรนด์365วันเม้าท์กินฟินเที่ยวไลฟ์สไตล์365วันไมล์เดย์365ไมล์เดย์365บอกโปร