JKN ทุ่ม คว้าลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล จากไอเอ็มจี

  • การเข้าถือครองกิจการและลิขสิทธิ์ในครั้งนี้จะเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจให้กับ เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ เจเคเอ็นในด้านกิจการโทรทัศน์และการค้าคอนเทนต์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจการค้าคอนเทนต์ระดับโลกอย่างแท้จริง
  • การเปลี่ยนผู้ถือครองธุรกิจมาสู่เจเคเอ็น ถือเป็นการสานต่อปณิธานและคุณค่าอันยาวนานกว่า 70 ปีขององค์กรนางงามจักรวาล รวมถึงการต่อยอดในทางธุรกิจ เพื่อนำไปสู่การผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ภายใต้ แบรนด์ MISS UNIVERSE®
  • การประกาศครั้งสำคัญนี้ ทำให้ แอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป ได้กลายเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เป็นเจ้าขององค์กรนางงามจักรวาล

องค์กรนางงามจักรวาลเป็นองค์กรระดับนานาชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการเฉลิมฉลองสตรีที่มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรมและประเพณี รวมถึงการเปิดโอกาสให้สตรีเหล่านั้น ได้ค้นพบความฝัน ผ่านการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเอง และการแสวงหาโอกาสอันดีงามเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ เนื่องในโอกาสครบรอบ 71 ปี การประกวดนางงามจักรวาล หรือ ‘มิสยูนิเวิร์ส’ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเวทีการประกวดที่ยาวนานที่สุดและมีผู้ชมมากที่สุดในโลก โดยออกอากาศใน 165 ประเทศทั่วโลกและมีผู้รับชมกว่า 500 ล้านคนในแต่ละปี

JKN

ภายใต้การบริหารของ เอมี่ เอมเมอร์ริช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารองค์กรนางงามจักรวาล และพอลล่า ชูการ์ต ประธานองค์กรนางงามจักรวาล การประกวดนางงามจักรวาลเป็นเวทีการแข่งขันนางงามระดับโลกที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกให้กับผู้หญิงจากต่างสาขาอาชีพกว่า 10,000 คนต่อปี ตลอดจน เสริมสร้างสรรค์กิจกรรมการกุศลที่เป็นประโยชน์ผู้คนทั่วโลก ทั้งนี้ การประกาศเข้าถือครองกิจการ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนกติกาการเข้าประกวดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มีจุดมุ่งหมายหลักในการยกระดับคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดให้มีความสอดคล้องกับเจตนารมณ์ขององค์กร ที่ต้องการส่งเสริมคุณค่าและความหลากหลายของสตรี

โดย แอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป ได้กลายเป็นสตรีคนแรกที่เป็นเจ้าขององค์กรนางงามจักรวาล การเปลี่ยนแปลงเจ้าของลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ ส่งผลต่อพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจของเจเคเอ็น ในการด้านกิจการโทรทัศน์และการค้าคอนเทนต์เพื่อด้านความบันเทิง และการจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับผู้บริโภค ถือเป็นการต่อยอดวิสัยทัศน์และเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรนางงามจักรวาล และแบรนด์ MISS UNIVERSE ให้มีความน่าสนใจและเข้าถึงผู้คนได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ผ่านการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อต่อยอดการเติบโต ทั้งในตลาดที่มีความสำคัญและตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมไปถึงตลาดแห่งภูมิภาคเอเชียด้วย

ในการประกาศครั้งสำคัญนี้ เจเคเอ็นได้เปิดเผยแผนการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจ โดยใช้จุดแข็งของแบรนด์ MISS UNIVERSE ต่อยอดด้วยการเปิดตัว MU Lifestyle ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจเฉพาะเพื่อการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ภายใต้องค์กรนางงามจักรวาล พร้อมนำเสนอเอกลักษณ์ของแบรนด์ MISS UNIVERSE อันทรงคุณค่า และช่วยเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอด้านสินค้าไลฟ์สไตล์ของเจเคเอ็น เพื่อส่งมอบตัวเลือกสินค้า ความบันเทิง และโอกาสทางธุรกิจ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของเจเคเอ็นอย่างแท้จริง

JKN

แอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป กล่าวว่า “เจเคเอ็นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าถือครองลิขสิทธิ์และธุรกิจขององค์กรนางงามจักรวาล ได้ร่วมทำงานกับทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ชั้นเลิศในการเข้าถึงผู้คนทั่วโลก รวมไปถึงการสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจและแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เพื่อเป็นการต่อยอดคุณค่าแห่งแบรนด์ MISS UNIVERSE”

การผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์แบรนด์ MISS UNIVERSE จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้พอร์ตโฟลิโอของเจเคเอ็นแข็งแรงและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราไม่เพียงแค่สานต่อคุณค่าอันยาวนานของเวทีประกวดนางงามที่มีความหลากหลายและน่าภาคภูมิใจ แต่เจเคเอ็นจะมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์แบรนด์ MISS UNIVERSE และองค์กรนางงามจักรวาลให้เกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้นไป”

เอมี่ เอมเมอร์ริช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารองค์กรนางงามจักรวาล กล่าวเสริมว่า “ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมกับงานกับเจเคเอ็น เพื่อสร้างการเติบโตให้กับองค์กรนางงามจักรวาลไปอีกระดับขั้น และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์ของเรากับพันธมิตรและแบรนด์ระดับโลกจะยิ่งแนบแน่นด้วยการเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้ให้องค์กรนางงามจักรวาลสามารถดำรงคุณค่า และเติบโตในระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน ดิฉันขอขอบคุณไอเอ็มจีที่เปิดโอกาสให้เราสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับแบรนด์และองค์กรนางงามจักรวาล”

Leave a Reply