สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จับมือพาร์ทเนอร์ ได้แก่ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย, เทใจดอทคอม, มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และ บริษัท เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (Dek-D) จัดใหญ่ EDC Pitching Season 2 รอบชิงชนะเลิศ ภายใต้แนวคิด “Digital Wellness Lifestyle” ที่ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน จาก 69 ทีม คัดเลือกและแข่งขันอย่างเข้มข้น จนในที่สุด ทีม Play Spirit จากแคมเปญ “Play Spirit: Happy Clear Screen” ชนะใจกรรมการ คว้ารางวัลชนะเลิศ สุดยอดแคมเปญที่รณรงค์การใช้ชีวิตออนไลน์แบบเหมาะสม พอดีและมีสติ จนรับเงินรางวัล 80,000 บาท และโอกาสในการร่วมเป็นเครือข่ายพลเมืองดิจิทัลคุณภาพ ต่อยอดผลงานสู่การใช้งานจริงโดยผนวกกับหลักสูตร ETDA Digital Citizen หรือ EDC
นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า อย่างที่เราทราบ วันนี้คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตติด Top อันดับต้นๆ ของโลก จากรายงาน ‘Global Digital Report’ ปี 2024 พบว่า เราใช้เวลา 1 ใน 3 ของทั้งวัน หรือราวเกือบ 8 ชั่วโมง ไปกับการท่องโลกอินเทอร์เน็ต ทั้งการสตรีมมิ่ง ดูหนัง-ฟังเพลง การอ่านข้อมูล การทำงาน หรือแม้แต่การซื้อของออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่นับวันจะยิ่งมีจำนวนของการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ด้วยวิถีชีวิตติดออนไลน์ นอกจากนำไปใช้ในเชิงสร้างสรรค์แล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่มาควบคู่เป็นเงาตามตัวนอกจากภัยคุกคามทางออนไลน์จากเหล่ามิจฉาชีพที่มาในทุกรูปแบบ ยังมีอีกประเด็นที่ ETDA อยากชวนฉุกคิด นั่นคือ ปัญหาสุขภาพทางกาย รวมไปถึงสุขภาวะทางใจ โดยผลการศึกษา Future of Thailand Digital Well-being โดย ศูนย์คาดการณ์อนาคต (Foresight Center by ETDA) จาก ETDA ได้เผยภาพสุขภาวะของคนไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ระบุว่า การใช้ชีวิตดิจิทัลอย่างไม่สมดุลนี้ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกายและใจที่รุนแรงมากขึ้นในอนาคต ในขณะที่รายงานดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล หรือ Thailand Cyber Wellness Index ได้สะท้อนภาพรวมของคนไทยมีสุขภาวะทางดิจิทัลอยู่ใน ระดับพื้นฐาน (Basic) โดยมีถึง 44.04% ที่ยังอยู่ใน ระดับต้องพัฒนา (Improvement) ข้อมูลเหล่านี้ ส่งผลให้คนไทยยังจำเป็นที่ต้องเพิ่มทักษะความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ดิจิทัลอย่างมีคุณภาพให้มากขึ้น
ดังนั้น ETDA ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาททั้งในมุมการกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัล แล้วยังมีในมุมของการส่งเสริมให้คนไทยมีความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัยควบคู่กันไปด้วย จึงได้ผนวกเรื่องการใช้ชีวิตดิจิทัลอย่างมีสุขภาพดี (Digital Wellness Lifestyle) เข้ามาเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญในงานขับเคลื่อนกิจกรรมและแคมเปญต่างๆ ภายใต้โปรเจค ETDA Digital Citizen หรือ EDC ทั้งการสอดแทรกอยู่ในเนื้อหาของ “หลักสูตรการสร้างความตระหนักรู้ในการใช้อินเทอร์เน็ต หรือ ETDA Digital Citizen (EDC)” ที่ตอนนี้ได้มีการพัฒนาเนื้อหาเป็น “หลักสูตร EDC Plus” ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยได้นำประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้ดิจิทัลอย่างเหมาะสม พอดีและมีสติ เข้ามาผสานกับหลักสูตรในมิติ Digital Use หรือการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม หนึ่งในโมดูลของหลักสูตร ที่ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดถึงในระดับนานาชาติ ซึ่งภายใต้หลักสูตร EDC นี้ ยังได้เผยแพร่สื่อที่เชื่อมโยงกับประเด็น Hot issue ในสังคมผ่านช่องทางต่างๆ ที่เข้าถึงคนไทยแล้วไม่น้อยกว่า 32.75 ล้านการเข้าชม กิจกรรมอบรมและถ่ายทอดความรู้ภายใต้หลักสูตรไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเยาวชน (Gen Z) นักศึกษา ครู บุคลากรภาครัฐ สมาคมฯ รวมถึงคนพิการ และผู้ต้องขัง รวมแล้วกว่า 58,079 คน และอบรม EDC Trainer ที่พร้อมต่อยอดสู่การเป็นเทรนด์เนอร์ดิจิทัลส่งต่อความรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายในสังคมแล้ว 1,993 คน ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ต่อยอดขยายผลสู่การแข่งขันประกวดแคมเปญสร้างสรรค์สังคมดิจิทัลประจำปีกับ EDC Pitching Season 2 ที่ปีนี้มาในธีม “Digital Wellness Lifestyle” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแคมเปญรณรงค์จากคนรุ่นใหม่ ภายใต้ 3 โจทย์ย่อย ประกอบด้วย 1) Screen Time Management 2) Digital Detox และ 3) Digital Mindfulness ซึ่งตั้งแต่เริ่มกิจกรรมในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีทีมสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 69 ทีม ก่อนคัดเลือกอย่างเข้มข้นให้เหลือ 10 ทีมสุดท้ายที่ได้ไปต่อ ได้แก่ 1. ทีมหน้าจอไม่ใช่โลกทั้งใบ 2. ทีมสตูดิโออยู่ในบ้าน 3. ทีมนอยด์อ่า 4. ทีมนางฟ้านางสวรรค์ 5. ทีม Play Spirit 6. ทีมขวัญตามหาชน (ไก่) 7. ทีม Yappy Yappah Aha! 8. ทีมทอมแอนด์เจอร์รี 9. ทีม KSR Green-White Power และ 10. ทีม MANTA RAY ซึ่งทุกทีมต่างก็ได้เข้าร่วมกิจกรรม Workshop เพื่อลับคมไอเดีย กับหลากหลายผู้เชี่ยวชาญทั้งจาก ETDA และภาคเอกชน
ก่อนเข้าสู่โค้งสุดท้าย ในวันนี้ (7 สิงหาคม) กับ กิจกรรม EDC Pitching Season 2 รอบชิงชนะเลิศ ที่ทุกทีมจะได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันในรูปแบบ Pitching นำเสนอแผนแคมเปญและไอเดียที่จะเข้ามาช่วยรณรงค์และร่วมสร้างสุขภาพสังคมที่ดีให้คนไทยเกิดใช้งานออนไลน์อย่างพอดีและมีสติ ต่อเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณอัจฉราพร หมุดระเด่น ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร จาก ETDA และ หัวหน้าโครงการ ETDA Digital Citizen (EDC), ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย, คุณสิรินาท ต่อวิริยะเลิศชัย Social Impact & Partnership Director เทใจดอทคอม และ คุณกันฐพงศ์ เจียวก๊ก ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ภายในเวลาที่กำหนดพร้อมตอบคำถามจากเหล่าคณะกรรมการ ซึ่งทุกทีมต่างก็แสดงศักยภาพและความโดดเด่นในการตอบคำถามต่อเหล่าคณะกรรมการทุกท่านกันอย่างเต็มที่
จากการพิจารณาตัดสินกันอย่างเข้มข้นของเหล่าคณะกรรมการ ในที่สุด ก็ได้ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คว้าสุดยอดแคมเปญ Digital Wellness Lifestyle ที่จะเข้ามาช่วยสร้างสรรค์ให้คนไทยเกิดการใช้งานออนไลน์อย่างพอดีและมีสติ คือ ทีม Play Spirit จากแคมเปญ “Play Spirit: Happy Clear Screen” ที่ชวนเด็กๆ พักหน้าจอ มาร่วมสนุกกับกิจกรรมพัฒนาสมองและร่างกาย เพื่อสร้างอนาคตสดใส ด้วย Animatic Video และ School Tour รับเงินรางวัล 80,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร ส่วนทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม MANTA RAY จากแคมเปญ “กันน๊อค ล๊อคอินใจ” ที่ช่วยลดการใช้เทคโนโลยีในกลุ่มไรเดอร์ผ่านการสร้างเครือข่ายออนไลน์และการผลิตคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในยุคดิจิทัล ได้รับเงินรางวัล 40,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และเกียรติบัตร และรางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมนางฟ้านางสวรรค์ จากเเคมเปญ จัดทำแอป “Your Mind” เพื่อช่วยแก้ปัญหาการใช้เวลาหน้าจอเกินความจำเป็น ด้วยแนวคิด 3R: Reduce, Reconnect, Relive พร้อมฟีเจอร์บันทึกอารมณ์ พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกชิง Reward ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ทีม KSR Green-White Power จากแคมเปญ “KSR Digitox Day” และ ทีม สตูดิโออยู่ในบ้าน จากเเคมเปญ จัดทำแอป “Catwalk” ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
นอกจากนี้ ในงานยังมีพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับ EDC Trainer รุ่นที่ 3 ที่เป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่ ETDA ได้พัฒนาเทรนด์เนอร์ดิจิทัลประจำปี ถึง 530 คน ที่ปีนี้กระจายลงพื้นที่นอกจากกรุงเทพฯ ยังมีเชียงใหม่ และขอนแก่น เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขยายผลส่งต่อความรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ภายใต้หลักสูตร EDC ไปสู่สังคม “EDC Pitching ถือเป็นก้าวสำคัญของ ETDA ในการร่วมสร้างนิยามดิจิทัลไลฟ์สไตล์ในรูปแบบใหม่ให้กับสังคมไทย ภายใต้การขับเคลื่อนของเครือข่าย Community จากคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในทุกช่วงวัยและบุคลากรตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มาร่วมกันผลักดันและทำงานร่วมกันในมิติต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาแคมเปญที่สร้างสรรค์ในการร่วมสร้างสุขภาพสังคมที่ดี ที่ไม่ได้จำกัดความสำเร็จเพียงแค่บนเวทีการแข่งขัน แต่ยังขยายไปถึงการต่อยอดไอเดียสู่การใช้งานจริงในการประยุกต์ใช้ในการทำงานเชิงพื้นที่ รวมถึงการเป็นแนวคิดใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์สื่ออบรมต่าง ๆ ของโปรเจค EDC เพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งโลกดิจิทัลที่เข้มแข็งและยั่งยืนอย่างสร้างสรรค์ให้เกิดในสังคมไทย เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถรับมือกับความท้าทายในยุคดิจิทัลได้อย่างรู้เท่าทัน พร้อมกันนี้ น้องๆ ที่ผ่านการคัดเลือกในการแข่งขันทุกทีมจะได้รับโอกาสในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมทำงานคุณภาพไปกับ ETDA เพื่อฝึกทักษะเพิ่มศักยภาพให้พร้อมสู่การทำงานจริงในอนาคตไปกับบุคลากรผู้เชียวชาญหลากหลายสาขาอีกด้วย” นายชัยชนะ กล่าวทิ้งท้าย