เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ณ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกล่าวเปิดอบรม วิทยาลัยทนายความ หลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง (วทน.) รุ่นที่ 1” โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ กล่าวรายงาน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว ขอแสดงความยินดีกับวิทยาลัยทนายความ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนา ส่งเสริมการศึกษาให้กับการประกอบวิชาชีพทนายความ โดยจัดอบรมหลักสูตรต่างๆ เสริมสร้างความรู้ ทักษะ การประกอบวิชาชีพทนายความให้มีความก้าวไกลและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดอบรมหลักสูตรดังกล่าวนี้ นับว่าเป็นหลักสูตรที่มีผู้เข้ารับการอบรมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและทนายความอันเป็นจุดมุ่งหมายที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ารับการอบรมทุกท่าน
ในโอกาสนี้ ขอแสดงความชื่นชมกับการเอาใจใส่ในการพัฒนาตัวเองของทุกท่านที่เข้ารับการฝึกอบรมในวันนี้ ผมคาดหวังว่าด้วยความมุ่งมั่นของวิทยาลัยทนายความซึ่งตามวัตถุประสงค์ในการเปิดอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง (วทน.)” รุ่นที่ 1 ประกอบกับความตั้งใจที่ทุกท่านได้เข้ามาฝึกอบรมในครั้งนี้ จะทำให้ทุกท่านมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการยุติธรรมอย่างลึกซึ้งและเพิ่มพูนความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ร่วมมือร่วมใจกันวางแนวทาง ยกระดับธรรมาภิบาลและคุณธรรมของผู้บริหารระดับสูง เพื่อสร้างผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและหน่วยงานที่ท่านสังกัดต่อไปในอนาคต ขอให้ทุกท่านที่เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ ได้รับประสบการณ์ ทักษะ มีความเข้าใจในกระบวนการยุติธรรม ความชำนาญจากวิทยากรผู้บรรยายทุกท่านอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้นำไปใช้ในการบริหารองค์กรได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านว่าที่ร้อยตรี ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ กล่าวรายงาน ตามความในพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 มาตรา 7 (1) สภาทนายความมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการศึกษาและประกอบวิชาชีพทนายความ มีการจัดอบรมหลักสูตรต่างๆ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพทนายความให้มีความรู้ ความสามารถและประกอบวิชาชีพทนายความได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนั้น
การอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง (วทน.)” รุ่นที่ 1 เป็นการอบรมที่วิทยาลัยทนายความ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาผู้บริหารขององค์กรต่างๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชนโดยให้สามารถบริหารงานได้อย่างสอดคล้องกับหลักกฎหมายในทุกๆ ด้านซึ่งการพิจารณาคัดเลือกผู้เข้ารับการอบรม จะพิจารณาคัดเลือกจากบุคลากรในหน่วยงานต่างๆทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนที่มีคุณสมบัติหลายด้านที่เกี่ยวข้องและเหมาะสม เพื่อให้บุคลากรเหล่านี้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการอบรมหลักสูตรดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในหน่วยงานของตน รวมทั้งให้ความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาองค์กรต่างๆ ในสังคมให้มีธรรมาภิบาลและแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายในทุกๆ ด้านสืบไป
ในการเปิดอบรมหลักสูตรนี้มีวัตถุประสงค์ 8 ประการ ดังนี้
1. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการยุติธรรมอย่างลึกซึ้งและสามารถนำมาปรับใช้กับองค์กรของตนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม
2. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่จำเป็นต่อการบริหารงานขององค์กรขนาดใหญ่และเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เชื่อมโยงของกฎกติการะหว่างประเทศและกฎกติกาภายในประเทศด้านต่างๆ
3. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้บริหารภาคเอกชนในแง่มุมของการบริหารจัดองค์กรให้สอดคล้องกับกฎหมายมหาชนและกฎหมายเอกชน รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ
4. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันวางแนวทางการบริการจัดการองค์กรที่สอดคล้องกับกฎหมายทุกๆ ด้าน และสามารถวางแผนการบริหารองค์กรให้สอดคล้องรับกฎกติกาสากลในทุกๆ มิติ
5. เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนอันจะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันในการปฏิบัติหน้าที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรของตน
6. เพื่อเป็นการยกระดับธรรมาภิบาลและคุณธรรมของผู้บริหารระดับสูงให้สอดคล้องกับแนวคิดและวิธีปฏิบัติในด้านนิติศาสตร์
7. เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนำกฎหมายไปใช้ในทางปฏิบัติในสาขาต่างๆ เพื่อให้วิชาชีพทนายความเป็นที่ยอมรับในสังคมวงกว้าง
8. เพื่อสร้างผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างทางสังคมอันมีกฎหมายเป็นพื้นฐานรองรับการดำเนินงานในด้านต่างๆ อันจะช่วยลดข้อขัดแย้งหรือการดำเนินงานที่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติกฎหมายในเรื่องต่างๆ
การอบรมหลักสูตรดังกล่าวนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 50 คน การอบรมมีระยะเวลา 7 เดือน โดยกำหนดอบรมสัปดาห์ละ 1 วัน ทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 -16.30 น. โดยมีการอบรมภาควิทยากร (ภายในห้องเรียน) จำนวน 120 ชั่วโมง การศึกษาดูงาน จำนวน 12 วัน การจัดทำเอกสารวิชาการและการจัดทำรายงานกลุ่ม และเงื่อนไขการสำเร็จการอบรม ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องมีระยะเวลาเข้ารับการอบรม และการศึกษาดูงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของหลักสูตร จัดทำเอกสารวิชาการส่วนบุคคลแล้วเสร็จส่งตามระยะเวลาที่กำหนดในหลักสูตร มีส่วนร่วมกิจกรรมในการอบรม ตลอดหลักสูตร ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับวุฒิบัตรและเข็มวิทยะฐานะของหลักสูตรการอบรม โอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการวิทยาลัยทนายความ ผู้ให้ความช่วยเหลือในการจัดอบรม รวมถึงวิทยากรที่ได้เสียสละเวลามาบรรยาย ถ่ายทอดประสบการณ์และให้ความรู้ และขอขอบคุณผู้เข้าฝึกอบรมทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง และขออวยพรให้การจัดอบรมหลักสูตรดังกล่าวนี้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ
ในโอกาสนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “กฎหมายกับการพัฒนาประเทศ” และช่วงบ่ายมีบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ทันยุคทันเหตุการณ์ผ่านมุมมองของนักกฎหมาย” โดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี