ถอดบทเรียน กู้ชีพ ‘อิริกเซน’ นักฟุตบอลทีมชาติเดนมาร์ก เมื่อเครื่อง AED ในที่สาธารณะ ช่วยชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

N Health

จากเหตุการณ์ปฏิบัติการช่วยชีวิต คริสเตียน อิริกเซน นักฟุตบอลทีมชาติเดนมาร์ก ที่มีอาการช็อกและหมดสติในสนาม ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 แสดงให้เห็นว่าการมีแพทย์ประจำสนามและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินมีความสำคัญอย่างมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) ได้ให้ความสำคัญกับอาการบาดเจ็บและป่วยฉุกเฉินในขณะที่ทำการแข่งขันฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นการหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้น จึงได้ออกข้อกำหนดว่าการแข่งขันฟุตบอลต่างๆ จะต้องมีเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator: AED) รถพยาบาลและทีมแพทย์ประจำสนาม

นายสุพิชัย วิจิตรภาพ ผู้อำนวยการฝ่ายขายเครื่องมือแพทย์ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) เปิดเผยว่า นอกจากสนามฟุตบอลหรือสนามกีฬาแล้ว สถานที่สาธารณะอื่นๆ ที่มีผู้คนจำนวนมาก เช่น สถานีรถไฟ สนามบิน โรงเรียน และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ก็ควรมีดารติดตั้งเครื่องนี้ด้วย รวมทั้งควรมีการฝึกบุคลากรและประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ให้สามารถทำการฟื้นคืนชีพเบื้องต้น (CPR) ประกอบกับการใช้เครื่อง AED ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

N Health

ทั้งนี้เครื่อง AED จะสามารถช่วยชีวิตจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ ให้หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติ ฟื้นได้ถึง 70% หากได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและถูกต้องตามหลักวิธี คือ ทำ CPR ประกอบกับการใช้เครื่อง AED ภายในระยะเวลา 4 นาที ซึ่งจะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของประชาชนที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้ แต่หากไม่มีเครื่อง AED การฟื้นกลับมาของผู้ป่วยจะมีเพียง 50% เท่านั้น โดยผู้ป่วยโรคหัวใจนั้น มี 2 ประเภท คือ แบบที่จำเป็นต้องใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้า กับแบบที่ไม่ต้องการเครื่องช่วย

สำหรับการทำ CPR นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการปฐมพยาบาลให้หัวใจทำงานต่อไป เปรียบเสมือนการส่งเลือดให้ไปเลี้ยงสมองและอวัยวะอื่นๆไม่ให้ตาย หรือได้รับความเสียหาย ไม่ใช่การรักษาภาวะผิดปกติของหัวใจที่ต้นเหตุ แต่ AED เป็นการรักษาโดยตรงช่วยให้หัวใจดีขึ้นและกลับมาทำงานเป็นระบบ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสนามกีฬาและฟิตเนส เป็นจุดที่จำเป็นต่อการติดตั้งเครื่อง AED เพราะผู้ใช้บริการมีการเคลื่อนไหวร่างกายและมีกลุ่มคนหลายวัยอยู่รวมกันในพื้นที่ ซึ่งไม่สามารถรู้สาเหตุที่เป็นปัญหาสุขภาพได้ทันทีในเบื้องต้น เครื่อง AED จึงมีบทบาทและเป็นสิ่งจำเป็นต่อการช่วยชีวิต

N Health

ปัจจุบันประเทศไทยมีเครื่องติดตั้ง AED อยู่ตามสถานที่ต่างๆ ประมาณ 30,000 เครื่อง และมีการช่วยเหลือให้รอดชีวิตจากเครื่อง AED เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยทุกเพศทุกวัยทุกที่ทุกเวลา ซึ่งอัตราของประชาชนที่เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน มีจำนวนมากพอๆกับผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยคาดว่าในอนาคตจะมีกฏหมายประกาศบังคับให้ติดตั้งเครื่อง AED ภายในสถานที่ต่างๆอย่างชัดเจน

N Health เล็งเห็นความสำคัญ การสร้างการรับรู้ และความเข้าใจในการติดตั้งเครื่อง AED ให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตในกรณีหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่การทำ CPR ร่วมกับการใช้เครื่อง AED สามารถทำให้การช่วยชีวิตประสบผลสำเร็จมากขึ้น 50-70% N Health จึงยินดีให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ที่ต้องการติดตั้ง AED ไว้ในพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ให้บริการต่างๆ โทร. 02-762-4099  หรืออีเมล nhcsbiomedical@nhealth-asia.com

Leave a Reply

error: Content is protected !!