นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ผนึกกำลังภาครัฐและเอกชน เตรียมเปิดพื้นที่จัดงาน “อุตสาหกรรมแฟร์ เมืองใต้ 2023 นครศรีธรรมราช” ขนทัพผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจและมอบเป็นของขวัญปีใหม่ส่งท้ายปีให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยการเปิดพื้นที่ส่งเสริมสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งการจัดแสดงผลงานการยกระดับอุตสาหกรรมคู่ชุมชนอย่างยั่งยืน การเติมองค์ความรู้ การบริการให้คำปรึกษาแนะนำการดำเนินธุรกิจ การจับคู่ธุรกิจ และกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงการจัดกิจกรรมจิตอาสา Net Zero วิ่งพิทักษ์สิ่งแวดล้อม คาดว่าจะก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้มากกว่า 200 ล้านบาท
นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้เล็งเห็นถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ สะท้อนจากตัวเลขจำนวนผู้เยี่ยมเยือนภาคใต้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวที่น่าพอใจและเป็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวที่เร็วกว่าภูมิภาคอื่น อย่างไรก็ตาม นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังเดินหน้ายกระดับศักยภาพผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้และมอบเป็นของขวัญปีใหม่ส่งท้ายปีให้แก่ประชาชนผ่านโครงการต่าง ๆ อันจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งยังเป็นการมุ่งเน้นให้ อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชน ตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม
โดยล่าสุด รมว.พิมพ์ภัทรา ได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อมเป็นหน่วยงานหลักในการจัดงาน “อุตสาหกรรมแฟร์ เมืองใต้ 2023 นครศรีธรรมราช” ภายใต้แนวคิด “การส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจเขตพื้นที่ภาคใต้ (Southern Industrial Fair)” เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการผลิต การประกอบการ และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเชิงพื้นที่ โดยบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด และสถาบันการเงินอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งการร่วมสร้างเครือข่ายและขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ ตลอดจนการสร้างการรับรู้บทบาทและภารกิจของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงงานบริการได้อย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพ และตอบสนองตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะสามารถยกระดับภาคอุตสาหกรรม สร้างการกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและใกล้เคียง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้มากยิ่งขึ้น
นายภาสกร กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมภายในงานแบ่งออกเป็น 5 โซนต่าง ๆ ดังนี้
• โซนที่ 1 การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าคุณภาพกว่า 300 บูธในราคาสุดพิเศษ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม สมุนไพรและเกษตรแปรรูป ของใช้และของประดับตกแต่ง ผ้าและเครื่องแต่งกาย และรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน มอก. พร้อมโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะภายในงาน รวมถึงยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคอีกมากมาย เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชนในพื้นที่
• โซนที่ 2 นิทรรศการแสดงการยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย ซึ่งเป็นการจัดแสดงการให้บริการด้านต่าง ๆ
จากกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ การจัดแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกล การจัดแสดงต้นแบบรถยนต์ EV ต้นแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และนวัตกรรมต่าง ๆ
• โซนที่ 3 การบริการให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่าง ๆ จากหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน อาทิ การประกอบธุรกิจเบื้องต้น การยกระดับกระบวนการผลิต
การออกแบบผลิตภัณฑ์และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การลดต้นทุนโลจิสติกส์ การตลาด และการให้บริการ
ด้านการเงินจากสถาบันการเงินภาครัฐและเอกชน
• โซนที่ 4 การสัมมนาองค์ความรู้ต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาองค์ความรู้การประกอบธุรกิจในยุคใหม่ การจัดเวิร์ค
ชอปให้ความรู้เพิ่มอาชีพ ตลอดจนการให้ความรู้ในเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ให้แก่วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ภาคใต้
• โซนที่ 5 กิจกรรมพิเศษอื่น ๆ อาทิ การบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ฟรี การเปิดรับสมัครงานในพื้นที่ภาคใต้ กิจกรรมลุ้นรับรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี และกิจกรรมความบันเทิงต่าง ๆ จากศิลปินดารามาร่วมสร้างสีสันอีกมากมายตลอดการจัดงาน
ทั้งนี้ งานอุตสาหกรรมแฟร์ เมืองใต้ 2023 นครศรีธรรมราช จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน –3 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ตลาดเสาร์อาทิตย์ ถนนพัฒนาการคูขวาง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าตลอดการจัดงานทั้ง 5 วันจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 100,000 คน และเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจกว่า 200 ล้านบาท และมีแผนในการขยายพื้นที่การจัดงานในภาคอื่น ๆ ต่อไปในอนาคตและนอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้จัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการมาตรฐาน (สมอ.) และมอบใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) มาตรฐานอุตสาหกรรมเอส (มอก.เอส) มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องบงกชรัตน์ โรงแรมทวินโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึง กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยังจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสิ่งแวดล้อม ในกิจกรรม “Walk & Run for Ozone and Climate 2065 Net zero” และ “จิตอาสาเพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” ในวันที่ 2 ธันวาคม 2566 ณ เขาพลายดำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อส่งเสริมสนับสนุน และผลักดันนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมในการรณรงค์ อนุรักษ์ ฟื้นฟูบรรยากาศโอโซน เพื่อให้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคใต้ให้อยู่คู่ชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนสถานที่ต่าง ๆ ให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และนักลงทุนเข้ามายังพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและสร้างอุตสาหกรรมคู่ชุมชนอย่างยั่งยืน นายภาสกรกล่าวทิ้งท้าย