เป็นร้านดังสุดฮิตที่ขึ้นชื่อสำหรับใครก็ตามที่ได้ไปเยือนเขาใหญ่ ต้องเคยได้เข้าไปชมบรรยากาศของ PIROM Café กันมาแล้ว ล่าสุด PIROM เปิดแฟลกชิปแห่งแรกในชื่อ “PIROM Specialty Bar” (ภิรมย์ สเปเชียลตี้ บาร์) ปักหมุดใจกลางศูนย์การค้ากลางเมือง เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 Eden Zone เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกใจกลาง CBD พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ในคอนเซ็ปต์ใหม่หมดจด กับสเปเชียลตี้ บาร์ ที่คว้าบาริสต้า ดีกรีแชมป์เอสเย็นระดับโลก มาร่วมรังสรรค์เมนูใหม่ พร้อมกับแฟลกชิปอันเป็นเอกลักษณ์ มาในดีไซน์เท่ขรึมด้วยสีดำที่สะท้อนความมีสไตล์ไม่เหมือนใคร ตัดสลับกับดีไซน์จากไม้ที่โทนดาวน์ความขรึมให้มีความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังใช้ดีไซน์ของความกลมมน มาเพื่อให้ร้านมีความเฟรนด์ลี่เข้าถึงง่ายได้มากขึ้น เผยหมุดหมายอันสำคัญ ในการยกระดับเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ไทย ดันไปไกลสู่สากลอย่างยั่งยืน
นางศิวลี บูรณสงคราม กรรมการผู้จัดการและที่ปรึกษาด้านการตลาด บริษัท พีบี กรูพ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดแบรนด์ดิ้งมากว่า 20 ปี กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของ PIROM Specialty Bar เกิดจากความตั้งใจของ คุณปิยะ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริษัทฯ ที่มองเห็นความสำคัญและต้องการยกระดับคุณภาพของเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ไทย ให้ไปไกลสู่สากลได้อย่างยั่งยืน นั่นคือเป้าประสงค์หลักที่อยากทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยการสร้างโอกาสสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรไทย และผู้ประกอบการไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ โดยได้มีการส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าและพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับเกษตรกรไทยในพื้นที่จังหวัดน่าน รวมถึงยกระดับกระบวนการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ โดยมีการคัดเมล็ด (โดยปกติแล้วเมล็ดกาแฟโรบัสต้าจะไม่มีการคัดแยกเมล็ด) และนำไปผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ทำให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพสูง คงแก่นแท้ของรสชาติที่ดีในแบบฉบับของโรบัสต้าและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ต้องการลบภาพจำเดิมของเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่มักจะมีกลิ่นหืน รสชาติเข้ม เป็นโรบัสต้าที่มีรสชาติดีอย่างเหลือเชื่อ และคุณภาพรางวัลการันตีจนได้เป็นโรบัสต้า เกรดซูเปอร์พรีเมียม ที่เรียกว่า Fine Robusta (ไฟน์ โรบัสต้า)
นอกเหนือไปกว่าที่เกษตรกรไทยในพื้นที่จังหวัดต่างๆ มีอาชีพปลูกเมล็ดกาแฟแล้ว ความคาดหวังในการสร้าง PIROM Specialty Bar แห่งนี้ ยังคาดหวังในการช่วยยกระดับกาแฟไทยให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้น จากสถานที่ที่ตั้ง เราไม่ได้คาดหวังแค่กลุ่มคนรักกาแฟมาร่วมดื่มและเข้าถึงได้ง่ายเท่านั้น แต่อีกหนึ่งกลยุทธ์คือ อยากให้กลุ่มนักท่องเที่ยวมีภาพจำเกี่ยวกับกาแฟไทยที่ดี และเกิดการบอกต่อในอนาคต เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการผลักดันวงการกาแฟไทยให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น นางศิวลี กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับที่ PIROM Specialty Bar แห่งนี้ มีบาริสต้าดีกรีแชมป์เอสเย็นระดับโลก กัญญาพัชญ์ จิรพัทธ์ปกรสิน (บาริสต้าหมิว) มาร่วมรังสรรค์เมนูที่เป็น A Must ที่อยากให้ทุกคนได้ลอง คือ Thai Style (Es-Yen) (ราคา 150 บาท) เมนูไฮไลต์ของร้าน ที่เต็มไปด้วยรางวัลการันตีระดับโลก คว้ารางวัล World ESYEN Champion จากการแข่งขันเอสเย็นทั้งหมด 36 แก้ว โดยจุดเด่นของ Thai Style (Es-Yen) ของ PIROM Specialty Bar นั้นอยู่ที่ นมสูตรพิเศษที่มีเพียง 1 เดียวในโลก ใน 1 จิบจะได้รสชาติที่หลากหลาย โดยในจิบแรกจะรู้สึก หวานกำลังดี หอมมัน รสนมนัวๆ ในปาก ต่อมาในช่วงกลาง จะให้ความรู้สึกเหมือนดื่มคาราเมล และ After Taste สุดท้ายจะหอมรสชาติอัลมอนด์คั่ว ให้ความรู้สึกนุ่มลึก ลงตัว แถมยังได้รสความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มีที่ไหนแน่นอน
อีกหนึ่งเมนูที่แนะนำ คือ เมนู Americano Passion Fruit (ราคา 150 บาท) เครื่องดื่มที่เติมความสดชื่นจาก 2 เลเยอร์ จิบแรกคือความเข้มข้นจากกาแฟอเมริกาโน่ ที่ใช้เมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน และเซอร์ไพร์สตามมาด้วยรสเปรี้ยวอมหวานจากน้ำเสาวรส ที่สดใหม่จากไร่พีบีวัลเลย์ เขาใหญ่ ให้ความรู้สึกรีเฟรชชิ่ง มอบทุกความสดชื่นให้ทุกจิบ เหมาะสำหรับเป็นเมนูเริ่มต้นวันใหม่
อีกหนึ่งเมนูที่คอกาแฟต้องลอง ได้แก่ Puffy on the cloud (ราคา 180 บาท) แรงบันดาลใจจากบรรยากาศในวันฝนตก พร้อมมวลเมฆบนท้องฟ้า ได้รับการนำมาบรรจุและสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติด้วยกาแฟในรูปแบบช็อตรสเข้มข้น ที่ค่อยๆ ไหลผ่านสายไหมก้อนเมฆรสหวาน เบื้องล่างคือเครื่องดื่มนมสูตรพิเศษที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เติมเต็มรสชาติมากยิ่งขึ้นด้วยกลิ่นรมควันจากไซรัปที่ได้แรงบันดาลใจมาจากถังไม้โอ๊กบ่มไวน์มอบความรู้สึกของ after taste ที่ยาวนานแบบไม่รู้ลืม
สำหรับใครที่ไม่ใช่สายกาแฟ ทาง PIROM Specialty Bar ก็มีเมนูแนะนำที่อยากให้ทุกคนได้ลอง คือ Silver Lining (ราคา 200 บาท) เครื่องดื่มที่พร้อมนำเสนอความรู้สึกลักชัวรี่ผ่านรสพิเศษที่คัดสรรมาโดยบาริสต้าของเรา น้ำองุ่นสายพันธุ์ชีราสจากไร่พีบีวัลเลย์ ให้ความรู้สึกพรีเมียม และเพิ่มเลเยอร์ด้วยกลิ่นหอมกุหลาบและลิ้นจี่ที่เติมความหอม พร้อมความสดชื่น ปิดท้ายด้วยรสซ่านิดๆ ด้วยสปาร์กกิ้ง แต่งเติมด้วยผลไม้อย่างเคพกูสเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่ ที่ให้รสชาติสมบูรณ์แบบและลงตัวในแก้วเดียว
สำหรับเมนูอื่นๆ ที่คิดว่าต้องเวียนชิมให้ครบ อาทิ Gentle Smokiness (ราคา 220 บาท) บุคลิกที่ชวนซับซ้อนและโดดเด่นด้วยลูกเล่นของการเบลนด์ส่วนผสมที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ให้รสชาติทั้งรสเปรี้ยวหวานอย่างกระเจี๊ยบ ส้ม สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี่ ผสมเฮิร์ปจากชะเอมเทศ และตัดรสจากชาดำ สร้างความเป็นไปได้ใหม่ที่สุดลงตัวสำหรับเมนูชา เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการความสดชื่นและรสสัมผัสเบาๆ จากสูตรการเบลนด์เฉพาะ ก่อนปิดท้ายด้วยการรมควันแอปเปิลที่ยิ่งชวนให้หลงใหล สตอรี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน แวะเข้ามาสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟในรูปแบบใหม่ ได้จากบาริสต้าที่ PIROM Specialty Bar ที่บาริสต้าสามารถแนะนำได้ทั้งเครื่องดื่ม Coffee หรือ Non-coffee และพร้อมที่จะส่งมอบทุกความใส่ใจในรายละเอียด ทุกแก้ว ชงทุกแก้วด้วยความใส่ใจ เพื่อนำเสนอคุณภาพที่ดีที่สุดให้ลูกค้าทุกคน
พบกับ PIROM Specialty Bar แฟลกชิปแห่งแรก ได้ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน Eden (บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ) เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 22.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/piromspecialtybar หรือ Line OA @piromcoffee
Fun Fact!
– ทำไมต้อง Robusta “เพราะ PIROM Specialty Bar เราต้องการให้โรบัสต้า กาแฟที่คนมองข้าม เป็น กาแฟที่ทุกคนต้องหันมามอง” ด้วยโลกที่ร้อนขึ้นในทุกวันนี้ การปลูกกาแฟอาราบิก้าจึงยากขึ้น เราอยากสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรในการปลูกโรบัสต้าที่สามารถปลูกในพื้นที่ร้อนได้ง่ายกว่า และสร้างมูลค่าของเมล็ดโรบัสต้า ในการหาวิธีที่จะทำให้โรบัสต้าได้คุณภาพที่ดีที่สุดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้โรบัสต้ากลายเป็นอนาคตของกาแฟไทยที่ก้าวข้ามขีดจำกัดแบบเดิม