วันที่ 31 ธันวาคม 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ส่งมอบความมหัศจรรย์แห่งค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “วิจิตร อรุณ” สร้างปรากฎการณ์ความวิจิตรตระการตาของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยาม พร้อมจัดเต็มการแสดงบนเวทีกลางน้ำและการแสดงพลุสุดอลังการเบื้องหน้า “พระปรางค์วัดอรุณฯ” แลนด์มาร์กของประเทศไทย คาดเงินสะพัดทั่วประเทศกว่า 5 หมื่นล้านบาท โอกาสนี้นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีการนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และคณะผู้บริหาร ททท. ให้เกียรติร่วมงาน ณ สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร
นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในนามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ร่วมกันเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่ากับความวิจิตรตระการตาของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยาม ที่จะส่งมอบความสุขในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจและขออำนวยพรให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติให้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยกำลังใจที่ดี ก้าวผ่านปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ อย่างราบรื่น และที่สำคัญที่สุดขอให้ทุกท่านจงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพจิตใจที่แข็งแกร่งและมีกำลังใจในการก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นงานที่สร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงตอกย้ำภาพลักษณ์ให้ทั่วโลกได้รับรู้และเกิดภาพจำในเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยต่อไป
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปีนี้ ททท. ร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภายใต้ชื่องาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567 ณ สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นบิ๊กอีเวนต์สำคัญภายใต้โครงการ Thailand Winter Festivals ของรัฐบาล เพื่อเพิ่มแรงส่งกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2566 ทั้งสอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กรุงเทพมหานครเป็นแลนด์มาร์กและ Global Countdown Destination ที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงและมาเยือนอย่างต่อเนื่อง โดยเนรมิตพื้นที่สวนนาคราภิรมย์ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “วิจิตร อรุณ” เปิดปรากฏการณ์ความวิจิตรของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยาม ด้วยภาพความสวยงามของแลนด์มาร์กของประเทศไทยอย่าง “พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” คู่กับนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย
ไม่เพียงเท่านั้น ททท. ยังจัดเต็มค่ำคืนแสนพิเศษด้วยเวทีกลางน้ำขนาดใหญ่สุดอลังการ พร้อม Light & Sound และเอฟเฟกต์สุดตระการตา ส่งมอบบรรยากาศแห่งความสุขและสนุกส่งท้ายปีด้วยการแสดงระดับโลกของวง Symphony Orchestra บรรเลงร่วมกับโขน ซึ่งเป็นการแสดงสุดพิเศษแห่งเดียวในประเทศไทย รวมทั้งการแสดงของศิลปินชื่อดัง ได้แก่ น้อย – กฤษดา สุโกศล แคลปป์, นัท มีเรีย, เก่ง ธชย, ติวเตอร์ – กรภัทร์ ลำน้อย และเข้ม – หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ก่อนจะก้าวสู่ปีใหม่ไฮไลต์การแสดงพลุที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยายาวต่อเนื่องกว่า 7 นาที โดยแบ่งเป็น 9 องก์ ประกอบด้วย อรุณรุ่ง / อรุณแห่งศรัทธา / รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย / ดินแดนแห่งความสุข / สยามเมืองยิ้ม / รุ่งอรุณแห่งการท่องเที่ยว / แสงอรุณแห่งอิสระเสรี / เจริญ รุ่งโรจน์ และ แสงอรุณแห่งความเชื่อ ศรัทธา ก้าวหน้า รอยยิ้มสะท้อนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นปีศักราชและส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ 2567 พร้อมตลาดวิจิตรอรุณที่เนืองแน่นไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม ไม่เพียงเท่านั้น ปีนี้ งาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ของประเทศไทย ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญและตัวแทนกิจกรรมเอกลักษณ์ของประเทศไทย ออกอากาศสดในช่วง “New Year’s Eve Live” ของ CNN International อีกด้วย
ททท. คาดว่าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2567 บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศจะคึกคักขึ้นจากปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยวไทยรวมประมาณ 54,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดต่างประเทศตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงช่วงเคาน์ดาวน์ปีใหม่ วันที่ 22 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567 คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 41,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากจำนวนนักท่องเที่ยว 1.1 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนการเปิดเที่ยวบินเข้าไทยเดือนธันวาคม 2566 เพิ่มขึ้นจาก 3.3 ล้านที่นั่งในเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็น 3.7 ล้านที่นั่ง, การอำนวยความสะดวกการเดินทางเข้าไทยในช่วงไฮซีซั่นมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าไทย (Visa Exemption) ของนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย ไต้หวัน และรัสเซีย และมาตรการขยายเวลาเปิดบริการสถานบันเทิงยามค่ำคืนถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่ท่องเที่ยวได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ขณะที่ตลาดในประเทศ มีแนวโน้มเติบโตได้ดีเช่นกัน มีรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 12,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 3.76 ล้านคน-ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (วันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567) ทั้งนี้ พื้นที่ที่ ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และร่วมกับพันธมิตร ภาคเอกชนจัดกิจกรรมแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา เชียงใหม่ ขอนแก่น นครพนม ร้อยเอ็ด สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต และสงขลา คาดว่า บรรยากาศทางการท่องเที่ยวดีขึ้น โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาว ไทย 1.11 ล้านคน-ครั้งเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 และสร้างรายได้ 4,740 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย ร้อยละ 82 ซึ่งคาดการณ์ว่า กรุงเทพมหานครจะเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนการเดินทางมากที่สุดจาก 10 จังหวัด รองลงมาคือ นครราชสีมา และเชียงใหม่ ตามลำดับ