Nothing แบรนด์ที่มีการพูดถึงในโลกออนไลน์และเป็นกระแสฮอตทั่วโลกในขณะนี้ ได้นำ Phone (1) สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของแบรนด์ที่เป็นจุดเชื่อมโยงสู่อนาคตและเป็นประตูสู่ระบบ ecosystem ของผลิตภัณฑ์สู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยนำเสนอเทคโนโลยี Glyph Interface ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีกล้องคู่ 50 MP รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ Nothing OS ฉบับปรับปรุงใหม่ อีกทั้งยังมีจอแสดงผล OLED 120Hz และชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 778G+ ที่ปรับแต่งขึ้นมาโดยเฉพาะ Nothing Phone (1) ยังสามารถมอบความเร็วและประสบการณ์ที่ราบรื่น ซึ่งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 17,900 บาท โดยมีรายชื่อผู้จองล่วงหน้ามากกว่า 200,000 รายการ และได้รับการประมูลมากกว่า $3,000 USD สำหรับ 100 เครื่องแรก สมาร์ทโฟนเครื่องนี้จึงเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดในรอบหลายปี
“เราได้ออกแบบ Phone (1) ที่เป็นผลงานที่เราภูมิใจนำเสนอให้กับเพื่อนและครอบครัว” Carl Pei CEO และ Co-Founder จาก Nothing กล่าว “หลักการง่าย ๆ เหล่านี้ได้ช่วยให้เราหลุดออกจากเส้นทางเดิม ๆ ออกแบบด้วยสัญชาตญาณ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ได้คาดหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมโทรศัพท์ที่กำลังซบเซา”
Glyph Interface
Glyph Interface วิธีใหม่ในการสื่อสารแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่จะมาช่วยลดการใช้หน้าจอ รูปแบบแสงที่เป็นเอกลักษณ์ที่ประกอบด้วยไฟ LED 900 ดวง สามารถระบุผู้โทรและแสดงสัญญาณการแจ้งเตือนของแอป สถานะการชาร์จ และอื่น ๆ เพียงจับคู่รายชื่อผู้ติดต่อแต่ละรายกับเสียงเรียกเข้า ซึ่งแต่ละรายมีรูปแบบสัญลักษณ์เฉพาะ จะทำให้ไม่พลาดสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงง
สำหรับการโฟกัสในแบบที่เงียบกว่า โหมด Flip to Glyph จะเป็นการแจ้งเตือนแบบเงียบและมีแสงกระพริบสำหรับการแจ้งเตือนเท่านั้น โดยการวาง Phone (1) แบบหงาย Glyph Interface
การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ การออกแบบที่เหนือกว่าพื้นผิวสัมผัส Nothing Phone (1) มีฝาหลังแบบโปร่งใสที่มาพร้อมกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบมากกว่า 400 ส่วน โครงอะลูมิเนียมสามารถรีไซเคิลได้ 100% ทำให้มีน้ำหนักเบาและทนทาน ขณะที่ส่วนประกอบพลาสติกของโทรศัพท์กว่า 50% ทำจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งเป็นคุณภาพชั้นนำในอุตสาหกรรม
Gorilla® Glass 5 แบบสองด้านให้ความแข็งแกร่ง ในขณะที่มอเตอร์สั่นสะเทือนขั้นสูงทำให้การตอบสนองการสัมผัสได้เป็นอย่างดี กรอบแบบสมมาตรและเป็นกรอบอะลูมิเนียมที่มาช่วยเพิ่มความสง่างาม ความเบา และความทนทาน
Nothing OS ฉบับปรับปรุงใหม่
Nothing OS มอบสิ่งที่ดีที่สุดของ Android เท่านั้น ไม่มี bloatware มีเพียงความเร็วที่บริสุทธิ์และประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยวิดเจ็ต แบบอักษร เสียง และวอลเปเปอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบโดยทีมงาน Nothing
Nothing Ecosystem คือบ้านของเทคโนโลยีที่คุณชื่นชอบทั้งหมดไม่มีแอปแยกอีกต่อไป ควบคุมผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นจากการตั้งค่าด่วนของ Phone (1) ได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น เริ่มต้นด้วย Tesla ที่สามารถปลดล็อกประตู เปิดแอร์ดูไมล์ทางซ้าย และอื่น ๆ อีกมากมาย การผนวกรวมแบรนด์อื่น ๆ เพิ่มเติมจะมีการประกาศเร็ว ๆ นี้
พลังงานจะถูกส่งไปในจุดที่จำเป็นที่สุดด้วยซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่เรียนรู้ว่าแอปใดที่คุณชื่นชอบ โดยแอปที่ใช้บ่อยที่สุดจะโหลดเร็วมากเป็นพิเศษ ส่วนแอปที่เหลือจะหยุดทำงานเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ แสดงคอลเลกชัน NFT ของคุณและติดตามราคาพื้นได้โดยตรงจากหน้าจอหลักของ Phone (1) ด้วยแกลเลอรี NFT
กล้องคู่ขั้นสูง
ถึงเวลาเลิกจำว่ากล้องจำนวนมากขึ้นหมายถึงรูปภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพดีขึ้น กล้องคู่ของ Phone (1) มีเซ็นเซอร์ 50 MP ขั้นสูงสองตัว โดยกล้องหลักที่ถูกขับเคลื่อนโดย Sony IMX766 รุ่นเรือธง รูรับแสงกว้าง ƒ/1.8 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่ และวิดีโอสี 10 บิต ให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการในการถ่ายภาพ เนื้อหาที่มีรายละเอียดที่เฉียบคม สมจริง และมีความเสถียรเป็นพิเศษ คุณสมบัติอัจฉริยะ เช่น โหมดกลางคืน และการตรวจจับฉาก เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกเฟรม โดยเลือกแบบที่เหมาะสมที่สุดให้แก่คุณ
ตั้งค่า Glyph Interface ให้มีความสว่างเต็มที่และให้แสงสว่างแก่วัตถุในระยะใกล้ด้วยแสงที่นุ่มนวล เป็นไฟวงแหวนแบบพกพาโดยไม่ต้องใช้แฟลช
จอแสดงผลที่สวยงาม 1 พันล้านสี ทุกเฉดสีสมจริงอย่างทรงพลังด้วยจอแสดงผล OLED 6.55” และ HDR10+ สีสันที่เข้มข้นยิ่งขึ้นและคอนทราสต์ที่ลึกยิ่งขึ้นจะถูกปรับให้เข้ากับแต่ละฉาก อัตราการรีเฟรชที่ปรับได้ 120Hz ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการโต้ตอบที่ตอบสนองอย่างลื่นไหล ในขณะที่สามารถประหยัดพลังงานได้อย่างเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพอันทรงพลัง เบื้องหลังความเร็วที่น่าทึ่งของ Phone (1) คือชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 778G+ อันทรงพลัง ซึ่งปรับแต่งขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ Nothing เพื่อรวมการชาร์จแบบไร้สายและ reverse charging ได้เป็นอย่างดี มอบกราฟิกที่ยอดเยี่ยมและคุณสมบัติกล้องขั้นสูง ทั้งหมดนี้ถูกเร่งความเร็วด้วย 5G โหมดเกมจะจับคู่เสียงกับกราฟิกได้อย่างแม่นยำ และลดการแจ้งเตือนให้น้อยที่สุดเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม
ชาร์จอย่างรวดเร็วและชาร์จแบบไร้สาย ใช้งานได้ 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสแตนด์บายอยู่ได้สองวัน พลังงานเพิ่มถึง 50% ในการชาร์จเพียง 30 นาที อุปกรณ์เสริมด้านพลังงาน เช่น Nothing Ear (1) พร้อมการชาร์จแบบ reverse charging 5W สัญลักษณ์ของคอยล์ชาร์จจะสว่างขึ้นเพื่อบ่งชี้ว่ากำลังชาร์จแบบย้อนกลับ
Nothing จับมือ Carnival เผยโฉมสมาร์ทโฟน Phone (1) ขายหมดในชั่วพริบตา Nothing ได้ร่วมมือกับ Carnival ในการทำ limited drop ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่ง Nothing เคยร่วมงานกับร้านค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นระดับพรีเมียมจากทั่วโลก เช่น Selfridges, GQ, Lane Crawford, Eslite, Crossover, Commonwealth และ Limited Edt แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกสำหรับร้านสตรีทแวร์อย่าง Carnival แต่สินค้าของ Nothing ที่ได้นำมาลงจำหน่ายที่คาร์นิวัลนั้นขายหมดภายในไม่กี่นาทีหลังจากเปิดตัวในเวลาเที่ยงคืนของวัน ที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของการทำงานร่วมกันระหว่าง Nothing กับ Carnival และรำลึกถึงผลงานสร้างสรรค์ที่ประสานระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์อย่างแยบยล นี่เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบจากร้านสตรีทแวร์ Carniva ซึ่งเราสามารถรับรู้กันได้ในงานเปิดตัว Nothing Phone (1) ที่ 515 Victory ในวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ราคาและการวางจำหน่าย
Phone (1) มีสีขาว (White) และสีดำ (Black) โดยมีทั้งหมดสามรุ่นดังนี้:
12GB/256GB ราคา 20,900.-
8GB/256GB ที่ 18,900 และ
8GB/128GB ที่ 17,900.- (เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป)
Nothing Phone (1) จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 26 สิงหาคมโดย Koan ผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวซึ่งเป็นถึงพาร์ทเนอร์ที่ร่วมมือกับร้านค้าปลีกอย่าง Dotlife, Koan Online และ Official e-commerse Store บนแพลตฟอร์มสุดฮิตอย่าง Lazada รายละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงข้อกำหนดและคุณสมบัติทั้งหมดสามารถค้นหาได้ในเว็ปไซต์ nothing.tech
หากต้องการติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถติดตาม Nothing ได้ที่ Instagram Discord และ Twitter หรือ สมัครเพื่อรับจดหมายและข่าวสารต่าง ๆ จาก Nothing ได้บน e-newsletters