ลิ้มลองความอร่อย ไรซ์บาร์ออร์แกนิค เมนูข้าวที่ออกแบบได้ จากใจ สีสด บาย บานาน่าลีฟ
Eat. Live. Better.
Miledayกินเที่ยว365วัน แวะมาแนะนำร้านอาหารที่มี “ข้าว” เป็นพระเอกและออกแบบความอร่อยได้เองอีกด้วย “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” เชื่อว่าหลายคนจะต้องเคยได้ยินประโยคนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เพราะตั้งแต่จำความได้ ข้าวก็เป็นอาหารหลักของคนไทยที่ไม่ว่าจะทำเมนูอะไรทั้งผัดกระเพรา แกงจืด ข้าวต้ม ข้าวก็มักจะเป็นวัตถุดิบหลักของคนไทยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่แยกออกจากกันไม่ได้ไปแล้ว แต่ถ้าจะลองดูลงไปในรายละเอียด เราเคยสงสัยกันมั้ยคะว่าถึงแม้ “ข้าว” ที่เราทานอยู่ทุกวันนี้มีคุณค่าสารอาหารอย่างไร ? ซื้อมาจากที่ไหน? และในเมื่อข้าวที่เป็นอาหารหลักของคนไทย เพราะอะไรเราถึงไม่ค่อยเห็นข้าวเป็นที่นิยมเหมือนกับกาแฟที่สนุกจะลิ้มรสคู่กับขนมแสนอร่อยตามร้านคาเฟ่
จากเหตุนี้เอง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ 2 ผู้บริหารคนเก่ง “ต้อง-ปวันรัตน์ ธนสารศิลป์” ผู้ช่วยกรรมการ บริษัท จิตต์ธนา จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 แห่งร้านอาหารไทยบานาน่าลีฟ และ “น้ำมนต์ – วัชรา ลี้โกมลชัย กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ซีแอลพี อยากเปิดร้านอาหารที่มี “ข้าว” เป็นจุดเด่น ให้คนไทยได้รู้จักว่าประเทศของเราไม่ได้มีเพียงแต่ข้าวหอมมะลิเท่านั้น แต่ยังมีข้าวอีกหลายสายพันธุ์ที่เมื่อนำมาพัฒนาสูตรแล้วยิ่งเพิ่มความอร่อยของการ
ทานอาหารมากขึ้น จึงก่อให้เกิดเป็นร้านอาหารไทย “สีสด บาย บานาน่าลีฟ” ที่มีจุดเด่น คือการทำ “ไรซ์บาร์ (Rice Bar)” ในร้านอาหารนำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ลูกค้าในรูปแบบที่เรียกว่า Mixtaurant ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้มากกว่าความอร่อย เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสลิ้มรสความหอมกรุ่น นุ่ม อร่อย ของข้าวที่สีสดใหม่ ที่รับข้าวโดยตรงมาจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศาลานา ปลูกข้าวแบบอินทรีย์ด้วยฝีมือของชาวนาไทยด้วยราคาที่เป็นกลาง และนำมาพัฒนาเบลนด์สูตรข้าวให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคได้ทานข้าวที่อร่อยควบคู่ไปกับการได้รับประทานอาหารไทยปรุงด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี เพื่อให้ได้รสชาติความอร่อยของอาหารไทยต้นตำรับ
“สีสด บาย บานาน่าลีฟ ( Sisod by Banana Leaf )” ตั้งอยู่ภายในโครงการ เดอะ เซอร์เคิล ถนนราชพฤกษ์ ช่วงติดกับแยกตัดเข้าถนนบรมราชชนนี เมื่อเข้ามาภายในร้านต้องสะดุดตากับ “ไรซ์บาร์ (Rice Bar) บาร์ข้าวออร์แกนิคที่เกิดจากการนำข้าวหลากหลายสายพันธุ์มาพัฒนาทำเป็นสูตรที่ทานง่าย รสชาติอร่อย ซึ่งข้าวแต่ละสูตรยังได้ผ่านการคิดค้นมาแล้วว่าช่วยตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพของคนในปัจจุบันอย่างไร และแต่ละสูตรนั้นจะช่วยเพิ่มสารอาหารอะไรให้กับลูกค้าได้บ้าง จึงเป็นที่มาของบาร์ข้าวทั้ง 6 สูตรด้วยกันเริ่มจาก ข้าวหอม 5 สายพันธุ์, ข้าวสูตรควบคุมน้ำหนัก,ข้าวสูตรเด็กเล็ก เพื่อพัฒนาการ, ข้าวสูตรควบคุมน้ำตาล, ข้าวสูตรบำรุงผิวและความงาม และ ข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค ซึ่งเราสามารถเลือกสูตรข้าวบอกกับพนักงาน เพื่อที่จะนำมารับประทานกับกับข้าวได้เลย
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งเรียบง่ายสบายตาด้วยโทนสีขาว มีรวงข้าวเล็กๆ ประดับอยู่ในแจกัน ได้กลิ่นอายธรรมชาติร่วมสมัย และยังแบ่งสัดส่วนพื้นที่ภายในร้านชัดเจนไม่ว่าจะเป็นบาร์ข้าว, โซนหุงข้าว และโซนสำหรับรับประทานอาหาร
ประเดิมเมนูแรกด้วย “เมนูข้าว” จากไรซ์ บาร์ ของทางร้าน “ข้าวอบตามใจฉัน” หลังจากที่เราเลือกสูตรข้าวที่จะทานเรียบร้อยแล้ว ทางร้านจะนำมาหุงด้วยหม้อคาเมชิ เทคนิคการหุงข้าวเฉพาะแบบโบราณของชาวญี่ปุ่น เมื่อเคี้ยวข้าวจะได้เทคเจอร์ของความนุ่ม…หนึบ
สายฟิวชั่นต้องชอบเมนูนี้ “ข้าวอบกะปิ” มินิบับสัญชาติไทย เพิ่มความสนุกให้การกินมีสีสันด้วยข้าวที่สีสดใหม่เสิร์ฟในหม้อคาเมชิร้อน พร้อมเครื่องเคียง ผัก หมูหวาน และกะปิสูตรเฉพาะของทางร้านเป็นกิมมิคให้คลุกเคล้าปรุงรสชาติด้วยตัวเอง
ครบเครื่องเรื่องกระเพราต้องสั่ง “ข้าวกระเพราไก่ไข่ออนเซ็น” กระเพราไก่เนื้อแน่น รสชาติเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่อง เสิร์ฟในข้าวอบร้อนๆราดด้วยไข่ออนเซ็น อร่อยเผ็ดครบเครื่องสายกระเพราห้ามพลาด
ใครที่ชื่นชอบความอร่อยของน้ำพริก และรสต้มยำกุ้งสุดแซ่บ! จะต้องว้าวกับเมนูนี้ “น้ำพริกต้มยำกุ้ง” ฉีกกฎต้มยำกุ้งที่ผ่านมาด้วยการนำต้มยำกุ้งมาคั่วผสมกับน้ำพริกสูตรลับของทางร้านได้รสเผ็ดจัดจ้าน ทานคู่กับเครื่องเคียง กุ้งตัวโตพร้อมผักต้ม ความอร่อยที่ลงตัว
อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ต้องยกให้ “ข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ” หมูกรุบกรอบร่อยชิ้นใหญ่ ที่ถึงแม้จะทานตอนไม่ร้อนก็ไม่ได้ทำให้ความกรอบหายแต่อย่างใด เคล็ดลับอยู่ที่วิธีการทอดสูตรเฉพาะของทางร้านต้องใช้วิธีการทอดค่อนข้างนาน และยังมีจำนวนจำกัดต่อวันอีกด้วย
รู้จักเมนูไฮไลท์ของข้าวกันไปแล้วมาถึงเมนูออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อย “หมูสะเต๊ะ” เนื้อหมูหมักนุ๊ม..นุ่ม หมักด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษของทางร้าน เสิร์ฟบนเตาร้อนเพิ่มกิมมิคเก๋ๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด รสชาติหอมกลมกล่อมรับรองว่ากินคนเดียว 10 ไม้ยังไม่พอ
เมนูถัดมาต้องถูกใจคนชอบทานปลา โดยเฉพาะเมนู ปลาทู สุดเก๋ กับ “ยำปลาทูฟู” เปลี่ยนรสชาติความเคยชินของปลาทูอันแสนคุ้นเคยมาครีเอทเป็นยำปลาทูโฉมใหม่ ได้รสชาติความเค็มมันเฉพาะของปลาทูทานคู่กับน้ำยำรสเด็ด อร่อยเกินห้ามใจ
สายเฮลท์ตี้ต้องรักเมนูนี้กับ “สีสด เฮาส์ สลัด” เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ความพิเศษอยู่ที่ความสด สะอาดปลอดสารพิษของผักออร์แกนิค พร้อมเสิร์ฟด้วยผักเกล็ดหิมะคู่กับเนื้อปูก้อนโต โรยด้วยรำข้าวเพิ่มคุณค่าของสารอาหาร เมื่อเคี้ยวไปแล้วจะได้รสสัมผัสความกรุบกรอบของผักหลากหลายชนิด รสชาติอร่อย ได้ลองแล้วต้องหลงรักแน่นอน
อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์เอาใจคนรักสุขภาพกับ “เมี่ยงกลีบบัว” ที่ทางร้านเลือกใช้กลีบของดอกบัวมาซึ่งมีเทกเจอร์ที่นุ่ม รสชาติไม่ฝาด มีกลิ่นหอมที่โดดเด่น เมื่อทานคู่กับเครื่องเคียงพร้อมน้ำราดเมี่ยงรสชาติเข้มข้นแล้ว ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารได้เป็นอย่างดี
ใครที่ชอบกินกล้วยขอแนะนำ “Home Made กล้วยบวชชี” รสชาติหอม หวาน มัน กลมกล่อม กำลังดี ที่สำคัญมีจำนวนจำกัดต่อวันแค่ 10 ถ้วยเท่านั้น ช่วงเวลาอากาศร้อนๆต้องลอง “มะพร้าวอ่อนหวานเย็น” ปั่นเกล็ดหิมะ ได้รสหวานอ่อนๆของมะพร้าวเย็นชื่นใจ
เติมความสดชื่นระหว่างวันกันสักนิดด้วย “Rose Lychee Soda” ตกแต่งด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล รสเปรี้ยวอมหวานจากน้ำเลม่อนผสมลิ้นจี่ กุหลาบ เติมความซ่าด้วยโซดา หรือถ้าใครที่ชอบเครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวาน ขอแนะนำ “Plum Sprite Soda” รสเปรี้ยวอมหวานจากบ๊วย ผสมน้ำเลม่อน คู่กับโซดา และ
Smoothie berry รำข้าว ที่นอกจากจะให้ความสดชื่นรสชาติความอร่อยจากเบอร์รี่หลากหลายชนิดยังได้สุขภาพที่ดีจากรำข้าวสด ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงซึ่งหาทานได้เฉพาะที่ร้าน สีสด บาย บานาน่าลีฟ เท่านั้น
ส่วนใครที่คิดถึงเมนูสุดฮิตจาก บานาน่าลีฟ เช่น ไก่มะนาว, ปลากะพงทอดน้ำปลา และเมี่ยงคำ ก็ยังมีให้ได้ลิ้มรสความอร่อยกันอีกเช่นเคย
ดื่มด่ำกับรสชาติของข้าวสีสดใหม่ และอาหารไทยต้นตำรับ พร้อมเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนกับไรซ์บาร์ ณ ร้านสีสด บาย บานาน่าลีฟ สาขา เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์
เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 22.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 22.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : สีสด Si-Sod by Banana Leaf