เสียวหมี่ ผู้นำนวัตกรรมระดับโลกประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Xiaomi 14 Series ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่าง Xiaomi กับ Leica ที่ต้องการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมการถ่ายภาพด้วยมือถืออย่างต่อเนื่องซึ่ง Xiaomi 14 Series มีการนำเลนส์ออปติกส์ Leica Summilux มาใช้ การผสมผสานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดด้านออปติคอลและการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุด ทำให้เสียวหมี่นั้นแข็งแกร่งขึ้นในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพบนมือถือ
นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังเปิดตัว Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 พร้อมด้วยอุปกรณ์สวมใส่อันน่าตื่นเต้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะ Xiaomi Smart Band 8 Pro, นาฬิกา Xiaomi Watch S3 และนาฬิกา Xiaomi Watch 2 ที่พร้อมยกระดับประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ในทุกด้านของการเล่นกีฬา สุขภาพ และไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดี
Xiaomi 14 Ultra: ภาพมืออาชีพระดับเรือธง ประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ และการออกแบบที่ล้ำสมัย
Xiaomi 14 Ultra ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสุนทรียศาสตร์ของกล้องแบบดั้งเดิม มาพร้อมด้วยโมดูลกล้องทรงกลมที่โดดเด่นพร้อมดีไซน์ด้านหลังที่แบนเรียบ โดยวางจำหน่ายในสองสีคลาสสิก ได้แก่ สี Black และ White ในตลาดต่างประเทศ
Xiaomi 14 Ultra ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมให้มีความแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างของ Xiaomi Guardian Structure ที่ประกอบไปด้วยกรอบอะลูมิเนียมความแข็งแรงสูง หนังวีแกน Xiaomi nano-tech และกระจกป้องกัน Xiaomi Shield Glass Xiaomi 14 Ultra นั้นถูกหลอมขึ้นจากบล็อกอะลูมิเนียมชิ้นเดียวจึงทำให้มีกรอบที่แข็งแรงขึ้นถึง 1.38 เท่า ในขณะที่หนังวีแกน Xiaomi nano-tech มาพร้อมกับสูตรที่พัฒนาขึ้นใหม่ ส่งผลให้ผิวเคลือบบางลงและเบาขึ้น พร้อมทนทานต่อการสึกหรอดีขึ้น 6 เท่า1 และการใช้กระจกป้องกัน Xiaomi Shield Glass สำหรับหน้าจอ All Around Liquid Display อันล้ำหน้าของ Xiaomi 14 Ultra ได้กำหนดนิยามใหม่ของจอแสดงผลด้วยการสร้างความโค้งที่สมมาตรกันในทุกด้านและทุกมุม ผสานเข้ากับรูปลักษณ์ที่สวยงามของจอแบนที่เข้ากับการตอบสนองการสัมผัสของขอบโค้งได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ Xiaomi 14 Ultra ยังให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมภาพอันดื่มด่ำด้วยหน้าจอแสดงผล AMOLED C8 WQHD+ ขนาด 6.73 นิ้วที่เสียวหมี่ปรับขึ้นเอง พร้อมด้วยความละเอียด WQHD+ (3200 x 1440) อันน่าทึ่ง ความหนาแน่นของพิกเซล 522 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) และอัตราการรีเฟรชที่ปรับเปลี่ยนระหว่าง 1 ถึง 120Hz ซึ่งถูกรองรับด้วยความสว่างสูงสุดอันน่าประทับใจกว่า 3,000 nits
Xiaomi 14 Ultra มาพร้อมกล้องระดับมืออาชีพสี่ตัวพร้อมช่วงโฟกัสอันน่าทึ่งตั้งแต่ 12 มม. ถึง 120 มม. โดยกล้องหลักมาพร้อมรูรับแสงแบบปรับได้แบบไม่มีขั้นตอนอยู่ที่ ƒ/1.63-ƒ/4.0 ช่วยให้สามารถปรับค่าแสงได้อย่างราบรื่นในสถานการณ์ที่หลากหลาย ผสานเข้ากับเซ็นเซอร์รับภาพ LYT-900 ขนาด 1 นิ้วที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ด้วยช่วงไดนามิกสูงถึง 14EV รับประกันคุณภาพของภาพที่โดดเด่นแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดยกล้องทั้งสี่ตัวนั้นประกอบไปด้วยกล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 75 มม. กล้อง Periscope Leica 120 มม. และกล้องอัลตร้าไวด์ Leica 12 มม.
Xiaomi 14 Ultra เป็นผู้นำด้านการถ่ายภาพด้วยมือถือที่รองรับการถ่าย 8K ที่ 30fps บนกล้องทั้งสี่ตัวของอุปกรณ์ ด้วยเลนส์ Leica และเซ็นเซอร์ความละเอียด 50MP จึงสามารถได้ภาพที่คมชัดที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วยวิดีโอ 8K ช่วยให้คุณสามารถตัดต่อทำขั้นตอนหลังการถ่ายทำได้อย่างมืออาชีพ ทั้งนี้กล้องหลักรองรับการถ่ายภาพ 4K ที่ 120fps และคุณยังสามารถปรับให้เข้ากับเอฟเฟกต์สโลว์โมชั่นได้อีก 5 เท่า นอกจากนี้ความละเอียด 4K ยังให้คุณสามารถซูมแบบเต็มช่วงที่ 60fps อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์ยังรองรับการถ่าย Dolby Vision®️ ที่ 4K 60fps และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวเพื่อการถ่ายวิดีโอที่ราบรื่น และมีการเพิ่มไมโครโฟนเข้ามาอีก 4 ไมค์ ทำให้คุณสามารถบันทึกเสียงได้แบบเซอร์ราวด์และแบบรอบทิศทางได้อีกด้วย
เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การถ่ายวิดีโอระดับมืออาชีพ โหมดภาพยนตร์ตัวใหม่ได้นำเอาแนวทางปฏิบัติในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาใช้ เช่น อัตราส่วนภาพที่ 2.39:1 และกฎชัตเตอร์ 180° ทำให้วิดีโอมีรูปลักษณ์เหมือนภาพยนตร์อย่างแท้จริงและภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว MasterCinema รุ่นใหม่นี้เข้ารหัสวิดีโอ HDR ในรูปแบบ Rec.2020 10 บิต เพื่อเก็บรายละเอียด ไฮไลท์ และเงาที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เหนือกว่าระดับมาตรฐาน BT.709 8 บิตก่อนหน้า โดยเฉพาะบนหน้าจอ HDR ในขณะที่โหมดผู้กำกับนั้นให้คุณสัมผัสกับอินเทอร์เฟซระดับมืออาชีพพร้อมการควบคุมพารามิเตอร์ขั้นสูงและการบันทึกรูปแบบ บันทึก (Log Format) เพื่อขั้นตอนหลังการผลิตที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น Xiaomi 14 Ultra สามารถเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ของเสียวหมี่ได้ เพื่อทำหน้าที่เป็นจอภาพอีกตัวเพื่อประสบการณ์การผลิตที่ดื่มด่ำ ซึ่งยังรวมไปถึง Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 รุ่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย
ทั้งนี้ Xiaomi 14 Ultra ยังมาพร้อมชุดถ่ายภาพ (Photography kit) ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและวิดีโอ โดยมาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติมเป็นด้ามจับและเคสที่มีมาให้โดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่มชัตเตอร์แบบสองขั้น คันโยกซูม ปุ่มบันทึกวิดีโอที่ปรับได้ และแป้นหมุนแบบกำหนดเอง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ภายนอกขนาด 1500mAh อีกด้วย โดยอุปกรณ์เสริมที่กล่าวมาจะจำหน่ายแยกต่างหาก
Xiaomi 14: ผู้นำด้านการถ่ายภาพ ประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับ ขนาดกระทัดรัด
Xiaomi 14 นั้นถูกออกแบบในขนาดกระทัดรัดเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยมีขนาดเพียง 152.8 มม. x 71.5 มม. x 8.20 มม.1 เท่านั้น แผงด้านหลังที่โค้งเล็กน้อยช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจับตัวเครื่องได้สะดวกสบายและปลอดภัยทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ความงามแบบมินิมอลนี้มาจากการย้ายตำแหน่งลำโพงไปที่หน้าจอแสดงผลและพอร์ตอินฟราเรดไปที่ตัวตกแต่งที่กล้อง ซึ่งช่วยให้กรอบด้านบนและด้านข้างดูสะอาดตามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การออกแบบกรอบจอให้มีความบางพิเศษนั้นใช้เทคโนโลยี FIAA ขั้นสูงเพื่อรวมวงจรแผงภายในไว้ในหน้าจอแสดงผล ส่งผลให้กรอบด้านล่างบางเพียง 1.71 มม. เท่านั้นเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำ1
Xiaomi 14 มาพร้อมกับกล้องสามตัวที่ครอบคลุมประสบการณ์การถ่ายภาพในทุกๆ ด้าน โดยครอบคลุมช่วงโฟกัสตั้งแต่ 14 มม. ถึง 75 มม. Xiaomi 14 นั้นได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมด้วยเลนส์ออปติคอล Leica Summilux พร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.6 ที่อัปเกรดแล้วบนกล้องหลัก ผนวกเข้ากับเซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 900 และมีช่วงไดนามิกสูงถึง 13.5 EV นอกจากนี้ความละเอียดของกล้องอัลตร้าไวด์ Leica 14 มม. ยังได้รับการอัปเกรดขึ้นเป็นความละเอียด 50MP ทั้งยังมาพร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 75 มม. โดยมีระยะโฟกัสใกล้สุดเพียง 10 ซม. เท่านั้น
ในส่วนของหน้าจอแสดงผล Xiaomi 14 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED 1.5K (2670 x 1200) ขนาด 6.36 นิ้ว ในขณะเดียวกันความหนาแน่นของพิกเซลของหน้าจอก็ได้รับการปรับปรุงขึ้นเป็น 460ppi ที่มอบรายละเอียดให้คุณมากกว่าที่เคย พร้อมความสว่างสูงสุดที่ 3000 nits สีสันของหน้าจอจึงสดใสและชัดเจนแม้ใช้งานภายใต้แสงแดด นอกจากนี้อัตรารีเฟรชที่ปรับเปลี่ยนได้ตั้งแต่ 1 ถึง 120Hz ยังรับประกันประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นและไร้รอยต่อในกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการท่องเว็บ อ่านหนังสือ และเล่นเกม
ฮาร์ดแวร์อันยอดเยี่ยมบน Xiaomi 14 Series ช่วยปลดล็อกศักยภาพด้านประสิทธิภาพอย่างเต็มรูปแบบ
Xiaomi 14 Series ผสานเอาโปรเซสเซอร์อันล้ำสมัย การปรับปรุงครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีระบายความร้อน และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างราบรื่น
ทั้ง Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Ultra นั้นขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 3 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ CPU ได้อย่างน่าประทับใจถึง 32% และลดการใช้พลังงานลงถึง 34% และยังเพิ่มประสิทธิภาพ GPU ได้ถึง 34% และลดการใช้พลังงานลงถึง 38% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า1 Xiaomi 14 Series มาพร้อมกับ Qualcomm FastConnect 7800 ที่ให้ Wi-Fi 72 พร้อมความจุถึง 320MHz อันน่าประทับใจ Xiaomi 14 Ultra ก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วย High Band Simultaneous (HBS) Multi-Link ที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ถึงช่องสัญญาณที่กว้างที่สุดและเวลาหน่วงต่ำที่สุดเท่าที่มีอยู่ โดยเป็นการปฏิวัติการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ความเร็วสูงเข้าด้วยกัน
Xiaomi 14 Series มาพร้อมระบบระบายความร้อน Xiaomi IceLoop สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ภายใต้สถานการณ์ที่มีความต้องการใช้งานสูง เช่น การบันทึกวิดีโอ, การถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์, AI แบบเรียลไทม์ และการเล่นเกมอย่างแข็งขัน ในขณะเดียวกัน Xiaomi 14 Ultra นั้นก็ก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบ Xiaomi Dual-Channel IceLoop ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งมีช่องระบายความร้อนที่สองโดยเฉพาะสำหรับโมดูลกล้องเพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอที่ราบรื่นมากยิ่งขึ้น
สำหรับเรื่องแบตเตอรี่และการชาร์จ ทั้ง Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Ultra มาพร้อมกับระบบการจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi Surge ที่ช่วยรับประกันประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานตลอดทั้งวัน Xiaomi 14 มาพร้อมแบตเตอรี่ 4610mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว HyperCharge 90W และการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W HyperCharge ในขณะที่ Xiaomi 14 Ultra นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุที่ใหญ่กว่า 5000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 90W HyperCharge และเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบไร้สาย HyperCharge 80W3เจาะลึกเข้าไปในอนาคตของระบบนิเวศอัจฉริยะด้วย Xiaomi HyperOS
Xiaomi 14 Series มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS อันล้ำหน้าซึ่งเป็นสุดยอดแห่งการพัฒนาของเสียวหมี่ที่ถูกบ่มเพาะมายาวนานเจ็ดปี โดยระบบนั้นยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลางโดยออกแบบมาเพื่อระบบนิเวศอัจฉริยะ “Human X Car X Home” โดยมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่ การปรับโครงสร้างใหม่อย่างครอบคลุม การเชื่อมต่ออัจฉริยะข้ามอุปกรณ์ ระบบอัจฉริยะเชิงรุก และการรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Xiaomi 14 Series ที่รองรับระบบ Xiaomi HyperOS จะได้พบกับความลื่นไหลของระบบที่ยกระดับความสามารถในการจัดการไฟล์และหน่วยความจำ UI ขั้นสูงที่รับการปรับปรุงใหม่ที่เสริมด้วยระบบย่อยกราฟิก การเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างอุปกรณ์ และคุณสมบัติความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุม เพื่อให้คุณมั่นใจถึงประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ปลอดภัย
การผสานเข้าร่วมกับ Google Photos จะทำให้ผู้ใช้สามารถสำรองรูปภาพและวิดีโออย่างปลอดภัยไปยัง Google Photos ภายใน Xiaomi Gallery ได้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถดู แก้ไข และแชร์เนื้อหาที่สำรองไว้ใน Google Photos ได้อย่างลื่นไหลจาก Xiaomi Gallery ซึ่งฟังก์ชันนี้จะพร้อมให้ใช้งานบนอุปกรณ์ เสียวหมี่ทั่วโลกในฤดูใบไม้ผลิปี 2024
Xiaomi 14 Series นั้นนำเอาเทคโนโลยี AI อันล้ำสมัยที่เปิดใช้งานโดย Xiaomi HyperOS มาใช้อย่างเต็มที่เพื่อให้ผู้ใช้มีชีวิตที่อัจฉริยะมากยิ่งขึ้น โมเดล AI ขนาดใหญ่ถูกรวมเข้ากับแอปพลิเคชันในระบบต่างๆ ทำให้มีฟีเจอร์ที่ชาญฉลาดและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น AI Subtitles ช่วยให้สามารถถอดเสียงเนื้อหาคำพูดได้แบบเรียลไทม์ระหว่างการประชุมทางวิดีโอ ในขณะที่ AI Album Search ใช้การประมวลผลภาษาที่เป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาภาพที่ต้องการภายในคอลเลกชันภาพถ่ายของตนได้ โดยใช้การอธิบายสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา สำหรับ AI Portraits นั้นใช้อัลกอริธึมขั้นสูงเพื่อสร้างองค์ประกอบภาพบุคคลแบบใหม่ที่ได้มาจากภาพที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้ AI Expansion ยังอำนวยความสะดวกด้วยการขยายเนื้อหารูปภาพที่มีอยู่ให้สมจริง ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ใหม่ๆ
ความฉลาดเชิงรุก (Proactive Intelligence) นั้นเกิดขึ้นได้ผ่าน Xiaomi HyperMind ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ในเชิงรุกและดำเนินการตามที่ต้องการ Xiaomi HyperMind ใช้ความสามารถในการรับรู้สี่ประการของอุปกรณ์ ได้แก่ สภาพแวดล้อม การมองเห็น เสียง และพฤติกรรม เพื่อเรียนรู้การตั้งค่าของผู้ใช้และปรับอุปกรณ์ให้ตรงกับความต้องการของพวกเขาโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้เปิดไฟห้องนั่งเล่นเป็นประจำเมื่อทำการปลดล็อคล็อคประตูอัจฉริยะ Xiaomi HyperMind จะทำให้ห้องสว่างโดยอัตโนมัติหลังจากการเรียนรู้รูปแบบพฤติกรรมนี้หลังจากได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานแล้ว
เมื่อปลายเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว เสียวหมี่ได้ประกาศอัปเกรดกลยุทธ์อย่างครอบคลุม โดยเปลี่ยนจากระบบนิเวศอัจฉริยะ “Smartphone x AIoT” มาเป็น “Human x Car x Home” โดยที่รถยนต์กลายเป็นองค์ประกอบใหม่และสำคัญในการมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของเสียวหมี่ ด้วยการเปิดตัว Xiaomi 14 Series ทั่วโลก อุปกรณ์ IoT ใหม่ๆ และการเปิดตัวรถยนต์ Xiaomi SU7 ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนและเชื่อมต่อด้วย Xiaomi HyperOS จึงทำให้เสียวหมี่ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ความก้าวหน้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของเสียวหมี่ในด้านนวัตกรรมและประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้อันดีเยี่ยม
Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 ไอเดียที่ยิ่งใหญ่บนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น
Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด ด้วยหน้าจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยมที่พร้อมจะมอบประสบการณ์การใช้งานอันดื่มด่ำ โดยมาพร้อมหน้าจอแสดงผล 144Hz 3K ขนาด 12.4 นิ้ว ที่มีอัตราส่วนกว้างยาวอยู่ที่ 3:2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการอ่านและการใช้งานมัลติมีเดียต่างๆ จึงเหมาะสำหรับทั้งการใช้ทำงานและการพักผ่อน นอกจากนี้ความสามารถในการแสดงผลอันโดดเด่นยังถูกเสริมด้วยความละเอียด 3048 x 2032 และ 294 พิกเซลต่อนิ้ว (PPI) มอบความคมชัดที่ไม่มีใครเทียบเพื่อการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข้อความที่ดีที่สุดไปจนถึงการแก้ไขภาพที่มีความละเอียดสูง หรือดื่มด่ำไปกับเกมใหม่ล่าสุด และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่งขนาด 10000mAh (typ) และการชาร์จเร็ว HyperCharge 120W ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเวลาการชาร์จที่สั้นลงพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานยิ่งขึ้น
Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 นั้นขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 2 ขนาด 4 นาโนเมตร Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 จึงให้ตัวอุปกรณ์มาพร้อมความเร็วที่รวดเร็วปานสายฟ้าและประสิทธิภาพอันลื่นไหล เมื่อจับคู่กับ Xiaomi HyperOS แล้ว Xiaomi Pad 6S Pro มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ 3 อย่างประกอบไปด้วย Home screen+, การทำงานร่วมกันข้ามอุปกรณ์ และ Xiaomi Smart Hub ซึ่งยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างกันขึ้นไปอีกระดับ Home screen+ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับสมาร์ทโฟนได้โดยตรงจากอินเทอร์เฟซของแท็บเล็ต—ไม่ว่าจะเป็นการตอบข้อความหรือรับสาย—โดยไม่ต้องโต้ตอบกับสมาร์ทโฟนโดยตรง11 ในขณะที่ฟังก์ชั่นภาพถ่ายแอป Notes ข้ามอุปกรณ์ (Cross-device Notes) นั้นใช้ประโยชน์จากความสามารถของกล้องของสมาร์ทโฟน ช่วยให้คุณสามารถจับภาพและฝังภาพได้ ลงในเนื้อหาบน Notes บนแท็บเล็ตได้โดยตรง จึงทำให้อำนวยความสะดวกในการสร้างเอกสารอันดึงดูดสายตาได้อย่างง่ายดาย11 ศูนย์ควบคุมอุปกรณ์รุ่นใหม่ – Xiaomi Smart Hub – นั้นสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุดเจ็ดเครื่องพร้อมกัน รวมถึงผลิตภัณฑ์ AIoT ต่าง ๆ ของเสียวหมี่ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าเครือข่ายอุปกรณ์ของคุณจะอยู่คุณเพียงปลายนิ้ว12 นอกจากนี้ Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 ยังมาพร้อมฟังก์ชันการแตะเพื่อแชร์การเปิดใช้งาน NFC ที่ช่วยลดความยุ่งยากในการแชร์ไฟล์ด้วยการแตะอย่างรวดเร็วและมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบาย ทั้งนี้สำหรับคอนเทนต์ครีเอตเตอร์ โหมดผู้กำกับ (Director Mode) ในแอปกล้องจะเปลี่ยนแท็บเล็ตของคุณให้เป็นเครื่องมือสอดส่องระดับมืออาชีพที่เชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนของคุณเพื่อบันทึกช่วงเวลาล้ำค่าได้อย่างง่ายดาย13
Xiaomi Pad 6S Pro 12.4 ยังมาพร้อมกับปากกา Xiaomi Focus Pen และคีย์บอร์ดทัชแพด Xiaomi Pad 6S Pro Touchpad Keyboard ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนอุปกรณ์ของคุณให้เป็นสุดยอดเวิร์กสเตชันแบบพกพาได้14 และยังเป็นครั้งแรกที่คีย์บอร์ดทัชแพด Xiaomi Pad 6S Pro Touchpad Keyboard นำเอาทัชแพดมาช่วยเพิ่มความสามารถของผู้ใช้ในการเลือกไฟล์และจัดการงานตัดต่อวิดีโอที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ปากกา Xiaomi Focus ที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ มีความไวต่อแรงกดถึง 8192 ระดับ และอัตราการตอบสนองถึง 240Hz ซึ่งจะช่วยรับประกันประสบการณ์การเขียนที่ไม่มีใครเทียบได้ นอกจากนี้การตอบสนองของตัวอุปกรณ์ยังได้รับการปรับปรุงเพิ่มด้วยความหน่วงต่ำพิเศษเพียง 5 มิลลิวินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า15 ทั้งนี้ปากกา Xiaomi Focus ยังมาพร้อมกับปุ่ม Spotlight แบบมัลติฟังก์ชั่นที่ช่วยขยายฟังก์ชันการทำงานได้นอกเหนือจากเพียงการเขียนเท่านั้น แต่ยังสามารถถ่ายภาพและจดบันทึกได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ขัดจังหวะความสร้างสรรค์Fitness meets fashion: Xiaomi Smart Band 8 Pro
Xiaomi Smart Band 8 Pro มาพร้อมการปรับแต่งที่ได้รับการอัปเกรด การติดตามกีฬาระดับมืออาชีพ การตรวจติดตามสุขภาพที่ครอบคลุม และฟีเจอร์อัจฉริยะอื่นๆ อีกมากมายเพื่อมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้งานที่ผสานเอาสไตล์เข้ามาไว้กับประโยชน์การใช้สอยในชีวิตประจำวันเข้าไว้ด้วยกัน
Xiaomi Smart Band 8 Pro มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 1.74 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 60Hz ที่ได้รับการอัปเกรดแล้ว ความละเอียด 336×480 พิกเซล ตัวอุปกรณ์นั้นมีความบางและเบาอย่างไม่น่าเชื่อ บางเพียง 9.99 มม. และหนักเพียง 22.5 กรัมเท่านั้น19 ทั้งนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกรอบโลหะ
นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์นั้นยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดแสงที่รองรับการปรับความสว่างของแสงโดยรอบแบบอัตโนมัติ เพื่อคุณให้มั่นใจได้ว่าหน้าจอแสดงผลจะยังคงมองเห็นได้ง่ายในสภาพแสงต่างๆ
Xiaomi Smart Band 8 Pro ให้คุณสวมใส่อุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายและทันสมัย โดยมาพร้อมกับสายรัดแบบปลดเร็วทั้งสองด้านของตัวสาย ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนสายรัดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น วางจำหน่ายในสี black และ silver ตัวอุปกรณ์มาพร้อมด้วยวัสดุและสีของสายรัดอันหลากหลายเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับแต่งได้อย่างเต็มที่20 และเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคล Xiaomi Smart Band 8 Pro นั้นมีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกมากกว่า 200 แบบ รวมถึงตัวเลือกธีมเกมเพื่อเพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงของคุณให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย21
Xiaomi Smart Band 8 Pro มาพร้อมการติดตามกีฬาระดับมืออาชีพด้วยโหมดกีฬาที่มีให้เลือกกว่า 150 โหมด เหมาะสำหรับตัวเลือกการออกกำลังกายที่หลากหลายและความชอบของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง ฟังก์ชันการวิ่งอัจฉริยะจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าความเร็วการวิ่งที่ต้องการก่อนวิ่งได้ พร้อมการแจ้งเตือนอัตราการก้าวเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังมีคอร์สการวิ่งถึง 10 คอร์สที่ช่วยให้คำแนะนำการวิ่งเชิงวิทยาศาสตร์ที่ใช้งานง่ายในระหว่างออกกำลังกายอีกด้วย ทั้งนี้ Xiaomi Smart Band 8 Pro ยังให้คุณสนุกไปกับแอนิเมชั่นการออกกำลังกายแบบ 3 มิติเพื่อให้คุณสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนในการวอร์มอัพและการยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย เพื่อให้คุณมั่นใจว่าร่างกายของคุณจะพร้อมก่อนการออกกำลังกาย22
สายรัดข้อมืออัจฉริยะนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการตรวจสอบสุขภาพอีกด้วย โดยมาพร้อมการอัปเกรดโมดูลตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 4 ช่องทางแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงโดยใช้เซ็นเซอร์หลายตัวเพื่อตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พร้อมทั้งยังบันทึกข้อมูลสุขภาพแบบเรียลไทม์23 อีกด้วย
Xiaomi Smart Band 8 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 289mAh ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 23% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน สำหรับการใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วัน มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 วัน และยังรับประกันการใช้งานได้ที่ยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จซ้ำบ่อยๆ24 สายรัดข้อมืออัจฉริยะยังมีการระบุตำแหน่ง GNSS ในตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถทราบตำแหน่งของตนได้แม้ว่าจะไม่มีโทรศัพท์ก็ตาม นอกจากนี้ Xiaomi Smart Band 8 Pro ยังได้รับการรับรอง 5ATM และยังมาพร้อมกับเครื่องมือที่มีประโยชน์อีกมายมากมาย เช่น ระบบสั่งงานด้วยเสียงของ Alexa และฟีเจอร์ “ค้นหาโทรศัพท์มือถือ” (find mobile phone) ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้นDial into style: Xiaomi Watch S3
Xiaomi Watch S3 คือสมาร์ทวอทช์มัลติฟังก์ชั่นที่มีดีไซน์นาฬิกาสุดคลาสสิก ที่ตอบสนองได้ทั้งด้านแฟชั่นของผู้ใช้งานและความต้องการในการใช้งานจริง
Xiaomi Watch S3 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ทรงกลมขนาดใหญ่ 1.43 นิ้วพร้อมกรอบอะลูมิเนียมอัลลอยด์น้ำหนักเบาสะท้อนดีไซน์นาฬิกาสุดคลาสสิก Xiaomi Watch S3 ยังมาพร้อมการปรับแต่งอย่างเหนือระดับด้วยกรอบและสายรัดที่สามารถเปลี่ยนได้ โดยคุณสามารถบิดขอบหน้าปัดและล็อคให้เข้าที่จากนั้นคุณจะสามารถแสดงหน้าปัดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของขอบหน้าปัดนั้นบนหน้าจอหลักได้25 นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังรองรับการคีย์ข้อมูลในแนวตั้งโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้สามารถใส่ข้อมูลลงในภาพถ่ายแนวตั้งของตนเพื่อสร้างหน้าปัดนาฬิกาส่วนบุคคลที่ไม่ซ้ำใครนอกเหนือจากหน้าปัดนาฬิกาฟรีที่มีให้เลือกมากกว่า 180 แบบ26 อีกด้วย
Xiaomi Watch S3 มอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและประสบการณ์ผู้ใช้อันเหนือระดับด้วยระบบ Xiaomi HyperOS อันทรงพลัง ซึ่งให้การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นและการซิงโครไนซ์ข้อมูลที่ดีขึ้น ตัวอุปกรณ์มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษซึ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 15 วัน นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จเร็วได้โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 2 วันด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที27 ทั้งนี้ผู้ใช้ยังสามารถปลดล็อคอุปกรณ์เสียวหมี่อื่นๆ ได้ก่อนบน Xiaomi Watch S3 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการต่างๆ ได้ด้วยมือเดียว ผู้ใช้สามารถควบคุมโทรศัพท์โดยการพลิกข้อมือหลายแบบๆ เพื่อ ปฏิเสธสาย ตรวจสอบสภาพอากาศ หรือถ่ายรูปได้อีกด้วย28
สำหรับการติดตามกีฬา Xiaomi Watch S3 นั้นก็มาพร้อมกับโหมดกีฬามากกว่า 150 โหมดให้ผู้ใช้เลือก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโหมดกีฬาฤดูหนาวรุ่นใหม่ที่เปิดให้ใช้งานเป็นครั้งแรกใน Xiaomi Watch S3 เวอร์ชันสากล โดยผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์โหมดสกีได้ดีที่สุดด้วยประสิทธิภาพการรับสัญญาณเสาอากาศที่ได้รับการปรับปรุงแล้วพร้อมความแม่นยำของตำแหน่งผ่าน L1+L5 dual-band GNSS ซึ่งวางตำแหน่งที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีคอร์สการวิ่งที่แตกต่างกันถึง 10 คอร์สเพื่อช่วยให้นักวิ่งในระดับต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความอดทนหรือเผาผลาญไขมันก็ตาม
Xiaomi Watch S3 ยังมีความสามารถในการติดตามสุขภาพขั้นสูงอีกด้วย โดยมาพร้อมโมดูลติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ 12 ช่องสัญญาณที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำกว่าอุปกรณ์รุ่นก่อนๆ23 อุปกรณ์นี้ยังมีฟังก์ชันบอกประเภทของสัตว์ที่นอนหลับ (sleep animal function) เพิ่มเข้ามาอีกด้วย โดยหลังจากสวมสมาร์ทวอชเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน สมาร์ทวอชจะบอกประเภทของการนอนหลับของคุณตามสัตว์ประเภทต่างๆ ที่แสดงถึงสภาพการนอนหลับของผู้ใช้โดยอิงตามรูปแบบการนอนทั้ง 7 วันSmart every wear: Xiaomi Watch 2
หนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวครั้งนี้คือสมาร์ทวอทช์ Xiaomi Watch 2 ที่พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษให้กับผู้ใช้งานด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ครอบคลุมและการออกแบบที่โดดเด่นอย่างมีสไตล์
Xiaomi Watch 2 มาพร้อมกับ Google Wear OS ที่มอบประสบการณ์สมาร์ทวอทช์อันราบรื่นและเสถียรแก่ผู้ใช้ โดยมาพร้อมกับแอปที่ใช้บ่อยที่สุด 5 แอปและรองรับแอปของบุคคลที่สามอีกกว่า 200 แอป ทำให้ผู้ใช้มีแอปให้เลือกใช้มากมาย ทั้งนี้ Xiaomi Watch 2 นั้นขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® W5+Gen 1 ด้วยสถาปัตยกรรมสองแกนหลักช่วยให้ตัวอุปกรณ์สามารถสวิตช์แบบอัตโนมัติทำให้มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อยลง โดยมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุดถึง 65 ชั่วโมงตามการใช้งานทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ 495mAh และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ 32GB24
Xiaomi Watch 2 ได้รับการออกแบบมาอย่างโฉบเฉี่ยวและหรูหรา โดยมาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว และกรอบกลางอะลูมิเนียมอัลลอยด์ สมาร์ทวอทช์เรือนนี้มีน้ำหนักประมาณ 37 กรัม ให้คุณได้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายขณะเล่นกีฬาหรือขณะนอนหลับ มีสายสองสีให้เลือกระหว่าง black และ silver และยังมีตัวเลือกวัสดุให้เลือกอีกหลากหลายเพื่อเสริมลุคของคุณ
Xiaomi Watch 2 ยังมาพร้อมฟังก์ชันรีโมทกล้องเป็นครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้สามารถดูตัวอย่างของภาพถ่ายจากกล้องมือถือของตนเองได้โดยตรงบนข้อมือของคุณเพื่อการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ29 ซึ่งฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ
ยิ่งไปกว่า Xiaomi Watch 2 ยังรองรับโหมดกีฬามากกว่า 160 โหมด รวมถึงโหมดกีฬาฤดูหนาวรุ่นใหม่ ล่าสุดที่สามารถบันทึกระยะทางและความเร็วเฉลี่ยของแต่ละการร่อนหรือแม้แต่สร้างแผนที่เส้นทางสกีได้อีกด้วย สำหรับ L1+L5 dual-band GNSS นั้นช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุตำแหน่งของตัวเองในหิมะหรือสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ หลังจากความร่วมมือกับ Strava แล้ว เสียวหมี่ได้ขยายความร่วมมือไปยัง Suunto บน Xiaomi Watch 2 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถซิงโครไนซ์ข้อมูลกีฬาและการนอนหลับระหว่าง Mi Fitness กับแอปเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการบันทึกข้อมูลจะไม่ถูกรบกวนขณะที่ใช้ Xiaomi Watch 2
Xiaomi Watch 2 มาพร้อมการตรวจติดตามสุขภาพที่แม่นยำและดีขึ้นด้วยโมดูลตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 12 ช่องที่ได้รับการอัปเกรดแล้วเช่นกัน23 นอกจากนี้ยังมาพร้อมอัลกอริธึมการตรวจติดตามการนอนหลับที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งจะรวมข้อมูลออกซิเจนในเลือดและลมหายใจเพื่อการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้แอป Mi Fitness เองยังมีฟีเจอร์ Sleep Animals ที่น่าสนใจอีกด้วย โดยหลังจากสวมนาฬิกาเป็นเวลาเจ็ดวันติดต่อกัน มันจะสร้าง “ประเภทการนอนหลับของสัตว์ (Sleep Animal)” ที่จะบอกประเภทของการนอนหลับของคุณตามสัตว์ประเภทต่างๆ ที่แสดงถึงสภาพการนอนหลับของผู้ใช้โดยอิงตามรูปแบบการนอนทั้ง 7 วันอีกด้วย
สามารถชมภาพเพิ่มเติมได้ที่: Xiaomi 14, Xiaomi 14 Ultra, Xiaomi Pad 6S Pro 12.4, Xiaomi Smart Band 8 Pro, Xiaomi Watch S3, Xiaomi Watch 2