Miledayกินเที่ยว365วัน ได้เวลาแบกเป้ มุ่งสู่ปลายทาง แอ่วเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง ในบรรยากาศใหม่ๆ เต็มไปด้วยแสงสี และสีสันความเจริญของตัวเมือง แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารสุดคูล และที่พักสุดชิคมากมาย แบ็คแพคเกอร์อย่างเรารอบนี้ขอลองค้นหาความเก๋ไก๋ๆ นอนสบายแบบชิคๆ คูลๆ ดูบ้าง กับขั้นกว่าของโฮสเทล! ที่เราคุ้นเคยแต่เพิ่มระดับความหรูหรา ในสไตล์พอชเทล Fashèn Poshtel ( ฟาเซ่น พอชเทล ) ที่พักเทรนด์ใหม่มาแรงแซงทางโค้ง การันตีด้วยรางวัลรีวิวจากนักเดินทาง Booking.com และ Agoda ถึง 9.5 คะแนน ให้ได้เช็กอิน หามุมอัพรูปรัวๆ ก่อนใคร อิน เชียงใหม่
Fashèn Poshtel ( ฟาเซ่น พอชเทล ) อาร์ตดีไซน์พอชเทล ที่พักแอนด์คาเฟ่ ขนาด 4 ชั้น ในสไตล์อินดัสเตรียล สแกนดิเนเวีย สีฟ้าเทาตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผสมความวินเทจในการเลือกของตกแต่ง ให้ความเรียบง่ายแต่เท่ จากความหลงใหลในการถ่ายภาพ ผนังที่ร้านจึงถูกเติมแต่งด้วยผลงานภาพถ่ายจากศิลปิน ให้เราได้เสพงานศิลป์ฟินรสกาแฟ มุมคาเฟ่เล็กๆ อย่างมีชีวิตชีวา หยุดเวลาผ่อนคลายในวิถีสโลว์ไลฟ์ ชมบรรยากาศคนเมืองที่ผ่านไปผ่านมา จิบกาแฟถ้วยโปรด
Fashèn Poshtel ตั้งอยู่บนถนนเจริญสุข ในย่านสันติธรรมแหล่งรวมสตรีทฟู้ดยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียงในวงการนักเดินทาง และคนในพื้นที่ ว่าแถวนี้มีแต่ของอร่อย เรื่องกินเรื่องใหญ่ในการลงหลักปักฐานของเราที่นี่ เพียงก้าวท้าวออกจากที่พัก ไม่ต้องกลัวท้องไม่อิ่ม ให้กลัวท้องจะแตกแทน คุณจะถูกรายล้อมไปด้วยเมนูอาหารไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น การันตีรสมือด้วยเจ้าของร้านต้นตำหรับคนญี่ปุ่นแท้ๆ มีเมนูให้เลือกอย่างละลานตา ทั้งข้าวปั้น ทาโกะยากิ บุฟเฟ่ต์ชาบู ปิ้งย่าง จิ้มจุ่ม สเต็ก ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีนคนเมือง ขนมหวานเจ้าประจำ เคลปบุฟเฟต์ ขนมปังปิ้ง ไปจนถึงร้านอาหารมังสวิรัติสำหรับคนรักสุขภาพ แล้วไปจบลงที่ฟิตเนส 24 ชั่วโมง สีสันความอร่อยของคนที่นี่เริ่มต้นช่วงเย็นเป็นต้นไป กินกับนอนเฉยๆ ยังเก็บแถวที่พักได้ไม่ครบทุกร้านเลยจร้า
นอกจากความอร่อยที่ไม่ขาดตอน การเดินทางไปเที่ยวในตัวเมืองถือว่าชิวมากๆ เพราะเราเดินไปได้ หิวก็แวะ เดินไปกินไปว่าง่ายๆ เราเริ่มต้นชีพจรลงเท้าที่วัดสันติธรรม แล้วไปเที่ยวช้อป ชิม ชิลล์กับร้านเก๋ๆ ยามค่ำคืนกันต่อ อย่าง วันนิมมาน, เมญ่า ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์, Think Park, วัดพระสิงห์, วัดเจดีย์หลวง, อนุสาวรีย์สามกษัตริย์, ตลาดถนนคนเดิน ใช้เวลาเดินโดยประมาณ 30 นาที ไกลออกมาอีกนิดก็ ประตูท่าแพ, ริมแม่น้ำ, เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ ใช้เวลาเดินโดยประมาณ เกือบ 1 ชั่วโมง ด้วยผังเมืองเชียงใหม่เชื่อมกันเกือบทุกซอย ทางลัดเราจึงมีเยอะ ใครไม่ไหวไม่ต้องบอกไหว โบกรถแดงไปเที่ยวได้เลยจร้า ผ่านตลอดถึงหน้าที่พัก
Fashèn Poshtel ขึ้นชื่อว่า Poshtel (พอชเทล) แน่นอนว่ามันต้องพิเศษกว่า โฮสเทล ด้วยสไตล์การออกแบบที่โดดเด่น ฟาเซ่น ซ่อนความเก๋ไก๋ไว้ให้เราตามไปสัมผัส ถึง 4 ชั้น 7 อารมณ์ห้องที่ต่างกัน เสน่ห์การตกแต่งจึงไม่เหมือนกัน แต่เพิ่มเติมพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น ทั้งห้องคู่ ห้องคี่ ห้องรวม มาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ด้วยแล้ว คือสบายมาก ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ครบด้วยฟังก์ชันและสิ่งอำนวยความสะดวกกึ่งโรงแรมแบบห้องส่วนตัว ตามเรามาแล้วคุณจะตัดสินใจง่ายขึ้น
Deluxe Garden Room ( 2 pax )
สุดยอดความนิยมของเหล่านักเดินทาง มักเริ่มต้นที่ Deluxe Garden room ชั้นล่างสุด ที่แอบซ่อนสวนสวยในแบบส่วนตัว ให้คุณได้ออกมาผ่อนคลายนั่งชิลล์รับลมธรรมชาติได้ทุกช่วงเวลา สีแดงของเฟอร์นิเจอร์ตัดด้วยความเขียวของต้นไม้ ช่วยให้ห้องสไตล์อินดัสเตรียลของที่นี่ มีชีวิตชีวาขึ้นอีกเยอะเลย พักได้ 2 คน กับพื้นที่ภายในห้องกว้างขวางพอให้กางกระเป๋าใบโตได้แบบสบายๆ เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครันประดุจโรงแรมใหญ่ ในราคาสบายๆ 1,500 บาทต่อคืน
Deluxe Room ( 2 pax )
ดีไซน์เล็กๆน้อยๆ ถูกซ่อนอยู่ทุกมุมห้อง ถูกแต่งเติมด้วยโคมไฟ ภาพถ่าย และโซฟาทรงโมเดิร์นสีเหลือง สีเขียว สดใส คู่เตียงนอนใหญ่ๆ นุ่มๆ ในแบบดีลักซ์รูมที่ทุกคนชื่นชอบ ทำให้ห้องที่กว้างขวางมีอารมณ์เล่าเรื่องที่ต่างกัน มาพร้อมระเบียงเล็กๆ ในบรรยากาศวิวเมือง ชวนรับลม พักได้ 2 คน แบบสบายๆ ในราคา 1,200 บาทต่อคืน
Family Triple Room ( 3 pax )
เอาใจคนไร้คู่ เพราะเรามาเป็นคี่ กับห้องนอน 3 คน แบบไม่ต้องเสริมเตียง ความสบายที่เท่ากัน อย่างไม่ต้องเบียด แต่มันคือความลงตัว ด้วยดีไซน์สุดชิค แค่ในห้องตัวเองก็มีมุมให้ถ่ายรูปเช็คอินกันรัวๆ ไปจนถึงห้องน้ำละ มาพร้อมมุมระเบียงเล็กๆ คอยรับลมธรรมชาติให้ห้องเราสบายได้อีก ในราคา 1,400 บาทต่อคืน ถ้าเอามาหารกัน มันคุ้มมากอะ
Family Room ( Bunk Bed 4 pax )
ห้องที่เหมาะกับการยกก๊วนมาเที่ยวทั้งแก๊งค์ แชร์กันลงตัวทุกคน ให้ความอบอุ่นเหมือนพี่น้องนอนรวมกัน ห้องนอนเตียง 2 ชั้น ที่ให้ความโปร่ง โล่งสบาย ในโทนสีขาวสะอาดตา เพิ่มรายละเอียดด้วยผนังอิฐสีส้ม ห้องที่ดูอ่อนหวานผสานความแข็งแรง ส่วนของห้องน้ำที่ไม่ใหญ่ แต่ถูกแบ่งสัดส่วนเปียกแห้งไว้อย่างชัดเจน รองรับการมาของเดอะแก๊งค์ ได้ ถึง 4 คนอย่างสบาย วิวระเบียงรับลมชมบรรยากศวิวเมือง ในราคา 1,600 บาทต่อคืน หารกันลงตัวเป๊ะ
Classic Room ( Bunk Bed 5 pax )
เป็นอีกห้องที่เหมาะกับเดอะแก๊งค์เลขคี่ พักได้ถึง 5 คน ก็ลงตัวได้แบบไม่ต้องแยกห้องให้วุ่นวาย มีบริการเตียง 2 ชั้น 2 เตียง และ 1 เตียงเดี่ยว ในโทนสีดำ ตัดด้วยความดิบของผนังอิฐ และความอาร์ตของภาพถ่าย เรียบง่าย แต่โคตรเท่ห์ๆ ส่วนของห้องน้ำก็แบ่งสัดส่วนเปียกแห้งไว้อย่างชัดเจนเช่นกัน ซึ่งดีต่อการใช้ฟังก์ชั่นคู่ และด้วยความที่อยู่ชั้นบนสุด มุมห้องด้านนี้หันหน้าเข้าหาภูเขาลูกใหญ่ให้ได้ชมวิวดีหลักล้าน ในราคา 1,800 บาทต่อคืน หารกันเบาๆ อยู่กันได้ยาวไป
นอกจากมุมล็อบบี้แล้วเส้นทางเดินระหว่างชั้น ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายศิลปะที่ถูกแต่งเติมไว้ ช่วยให้เราเดินขึ้นลงแบบเพลินๆ มาพร้อมบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีทุกชั้น เเชะมุมไหน เช็คอินมุมนั้น ไม่มีพลาด ซึ่งในแต่ละชั้นมีแค่ 2 ห้อง ที่นี่จึงมีความเป็นส่วนตัว เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจนดี ไม่พลุกพล่าน พื้นที่สะอาด เพราะมีแม่บ้านทำความสะอาดให้ทุกวัน ข้อดีอีกอย่างสำหรับแบ็คแพคเกอร์สาวๆ ที่รักการเดินทางคนเดียว ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญ ตอบโจทย์ด้วยระบบคีย์การ์ดเข้า – ออก
Mileday365บอกโปร📣
🔸 เข้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รับส่วนลดเพียบๆ
🔸 พร้อมบริการอาหารเช้า ฟรี! กระซิบหน่อยอร่อยดี
เป็นอีกทริปในความทรงจำ อิน เชียงใหม่ ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ผ่านเข้ามา ช่วยเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ ให้เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งสีสันมากขึ้น ห้อมล้อมไปด้วยร้านอาหารเก๋ๆ น่านั่งมากมาย แหล่งช้อปปิ้งสินค้าแฮนด์เมด และที่พักหลายๆ ที่แข่งกันด้วยดีไซน์ชิคๆ ฮิปๆ อย่างมีสไตล์ ทริปนี้ให้คะเเนนรีวิวนำทางเรามา จบลงที่ Fashèn Poshtel พอชเทลเล็กๆ ที่ให้ความสะดวกสบาย เดินทางใกล้ ไปเที่ยวเองได้หลายๆ ที่ ยังรวบรวบร้านอาหารอร่อยไว้ใกล้ตัว ในราคาที่โดนใจ..นี่ละรักเลย ฝากไว้เป็นหนึ่งตัวเลือกให้เหล่านักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจเลือกเมืองเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางในทริปหน้าละกันนะคะ
📍 Fashèn Poshtel @Chiang Mai
19/4 ถนนเจริญสุข ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
📞 053 217 213
📲 https://www.facebook.com/poshtel/
