ตลาดเทรดดิ้งการ์ดกลับมาเป็นกระแสทั่วโลก “คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” ผู้นำวงการการ์ดเกมไทย รวมถึงเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายการ์ดเกม และของเล่นแบรนด์ดังมากมาย มั่นใจตลาดการ์ดเกมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังคนรุ่นใหม่ยุค Gen Y เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน และมีกำลังซื้อมากขึ้น เดินหน้าอัดกิจกรรมการตลาด Event, Influencer Marketing และ Mobile Application พร้อมชูกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าเดิม และสร้างการรับรู้ให้ผู้เล่นการ์ดใหม่ๆ ได้รับความสนุก และตัดสินใจเล่นการ์ดภาษาญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น
นายวีระศักดิ์ กิจเลิศไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ จำกัด (Kidz and Kitz) ผู้นำวงการการ์ดเกม รวมถึงเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายการ์ดเกม และของเล่นแบรนด์ดังมากมาย อาทิ BANDAI, KONAMI, Bushiroad, EPOCH, Topps ฯลฯ ตลอดจนได้ลิขสิทธิ์ผลิต และจัดจำหน่าย การ์ดไฟท์แวนการ์ด ฟิวเจอร์การ์ดบัดดี้ไฟท์ และแบทเทิลสปิริตส์ ในเวอร์ชั่นภาษาไทย เปิดเผยว่า ตลาดเทรดดิ้งการ์ดเกม (Trading Card Game) ทั่วโลกกลับมาเติบโต และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เล่น และนักสะสมหน้าใหม่ เนื่องจากเด็ก Generation Y ที่เคยติดตามอนิเมะได้เติบโตขึ้น และเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน มีกำลังซื้อสูง สนใจเรื่องการลงทุน และสามารถตัดสินใจซื้อได้ด้วยตนเอง ประกอบกับเทรนด์การสะสมการ์ดในฐานะของมีค่า ที่มีทั้งคุณค่าทางจิตใจ และอาจมีราคาสูงขึ้นในอนาคต เป็นแรงบวกที่ทำให้ตลาดการ์ดเกมเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา
ในประเทศไทย ถ้าพูดถึงธุรกิจการ์ดเกม คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” คือผู้นำตลาด และเป็นผู้บุกเบิกยุคสมัยใหม่ของวงการการ์ดเกมในประเทศไทย โดยเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ได้ซื้อสิทธิ์การ์ดเกมจากต่างประเทศมาแปลเป็นภาษาไทย และผลิตในประเทศไทย พร้อมจำหน่ายในราคาที่เด็กๆ และคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งยังกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อ รวมถึง Modern Trade ส่งผลให้วัฒนธรรมการเล่นการ์ดเกม ขยายตัวสู่ Mass Market ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าแตกต่างจากในอดีตที่ตลาดการ์ดเกมยังคงกระจุกตัวเฉพาะในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
“เราเป็นผู้นำตลาดการ์ดเกมในประเทศไทย ทั้งยังเป็นตัวแทนจำหน่าย นำเข้าการ์ดเกมดังๆ มากมาย อาทิ Yu-Gi-Oh! (ยูกิโอ), การ์ดไฟท์แวนการ์ด, ไวส์ชวาส, แบทเทิล สปิริตส์, วันพีซการ์ดเกม และล่าสุดคือ “ยูเนี่ยนอารีน่า – UNION ARENA”แม้จะมี E-sports, Mobile Game เป็นทางเลือก แต่ต้องยอมรับว่ากระแสการ์ดเกมในปัจจุบันดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ปกครองเห็นถึงประโยชน์ของการ์ดเกม ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการมีปฏิสัมพันธ์ เพราะการแข่งขันการ์ดเกมทำให้ผู้เล่นมีโอกาสมาพบหน้ากัน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และทำกิจกรรมร่วมกัน จนเกิดเป็นมิตรภาพ และสังคม (Community) ของผู้ที่ชอบการเล่นการ์ดเกม รวมถึงในปัจจุบัน ได้เกิดนักสะสมการ์ดหน้าใหม่มากมาย ที่เล็งเห็นว่า การ์ดเกมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งทางด้านจิตใจ และมูลค่าที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต ดังนั้นการเติบโตของตลาดการ์ดเกมจึงเป็นการเติบโตอย่างมั่นคง และต่อเนื่อง”
นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อปัจจัยภายนอกส่งเสริม บริษัทฯ ได้เตรียมเดินหน้าขยายฐานตลาดในประเทศไทย ผ่านกิจกรรมการตลาดทั้ง Online & Offline อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์การแข่งการ์ดเกมภาษาญี่ปุ่น ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับร้านค้า ภูมิภาค ไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งจะมีตลอดทั้งปี การสร้างการรับรู้สู่กลุ่มใหม่ๆ ผ่าน Influencer Marketing บน Social Media รวมถึงลดอุปสรรคในการทำความเข้าใจการ์ดที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ด้วยการเปิดตัว Mobile Application “KK CARD FIGHT” แอปพลิเคชันที่รวมทุกสิ่งที่นักเล่นการ์ดต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชันช่วยแปลความหมายของการ์ดแต่ละใบเป็นภาษาไทย ระบบสมาชิกเก็บคะแนนสะสม อำนวยความสะดวกในการจัดเด็คการ์ด ระบบทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน ตอบโจทย์ทั้ง End uesr และร้านค้า โดยสามารถตอบสนองความต้องการทั้ง B2C และ B2B ในเวลาเดียวกัน และกิจกรรมการตลาดอีกมากมายที่ จะช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิม และสร้างการรับรู้ให้ผู้เล่นการ์ดใหม่ๆ ได้รับความสนุก และตัดสินใจเล่นการ์ดภาษาญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น
ล่าสุด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด และเพื่อขยายฐานลูกค้า “คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบอนิเมะ จึงเตรียมเปิดตัวการ์ดเกมใหม่ “ยูเนี่ยนอารีน่า – UNION ARENA” ในประเทศไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจการ์ดเกมของบริษัทฯ โดยจะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคม 2566 นี้
“ยูเนี่ยนอารีน่า เป็นการ์ดเกมที่รวบรวมเหล่าสุดยอดคาแรคเตอร์ยอดนิยม จากทั้งมังงะ และอนิเมะไว้มากที่สุด โดยจะประเดิมด้วย 3 ซีรีส์แรก คือ “จูจุสึ ไคเซ็น” , “โค้ด กีอัส” และ “ฮันเตอร์ × ฮันเตอร์” โดยผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นคาแรคเตอร์ที่เขาชื่นชอบ ต่อสู้กับคาแรคเตอร์จากซีรีส์ใดๆ ก็ได้ มาห้ำหั่นกันในสังเวียนเดือด ภายใต้กฎเดียว ฟอร์แมตเดียว และยังจะมี ซีรีส์ดังอื่นๆ ตามออกมาอีกไม่ว่าจะเป็น ดาบพิฆาตอสูร (Kimetsu no Yaiba), THE IDOLM@STER Shiny Colours, Tales of ARISE, เทพมรณะ (BLEACH), My Hero Academi และอื่นๆ อีกมากมาย ให้แฟนๆ ได้สะสมกันตลอดปีเลยทีเดียว และนี่คือมิติใหม่ แห่งวงการการ์ดเกม ที่ขนทัพตัวละครจากทั้งมังงะ และอนิเมะดังมากมาย กับการ์ดเกมใหม่ UNION ARENA” นายวีระศักดิ์ กล่าว
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ “คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” ยังเป็นผู้นำตลาดการ์ดเกมที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทยกว่า 10 ปี เพราะมี 5 กลยุทธ์สำคัญคือ 1.ซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนที่เกี่ยวกับการ์ดเกมมาแพร่ภาพในช่องทางต่างๆ เพราะการ์ตูนคือ Trigger สำคัญในการดึงดูดความสนใจของการ์ดเกม จากนั้นจะเกิดการบอกต่อระหว่างเพื่อนสู่เพื่อน 2. ทำให้การ์ดเกมเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านช่องทางจำหน่าย เช่น ในร้านสะดวกซื้อ และโมเดิร์นเทรด โดยขายในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ 3. สื่อสารการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้กลยุทธ์อินฟลูเอนเซอร์มาร์เก็ตติ้ง เพื่อเข้าถึงคนเจเนอเรชั่นใหม่ 4. สนับสนุนร้านค้า จนถึงระดับโรงเรียน โดยฝั่งร้านค้ามีการสนับสนุนทั้งการแข่งขัน และกิจกรรมอื่นๆ ส่วนระดับโรงเรียนก็มีการสนับสนุนชมรมการ์ดเกมในโรงเรียนต่างๆ และ 5. จัดกิจกรรมการแข่งขันทั้งในภูมิภาค และระดับประเทศ แต่เราจะไม่เน้นเรื่องเงินรางวัล เพราะต้องการสร้างสังคมที่ดี และเปิดกว้างให้ทุกคนที่เล่นการ์ดเกมเข้ามาแข่งขันได้
การเดินหน้าตามกลยุทธ์ดังกล่าวได้พิสูจน์แล้วว่า ตลาดการ์ดเกมไทยยังเติบโต และสามารถพัฒนาต่อไปได้จริง แถมยังสร้างการรับรู้ให้ผู้เล่นการ์ดใหม่ๆ ได้สนุก และตัดสินใจเล่นการ์ดภาษาญี่ปุ่นด้วย ขณะเดียวกันตัวผู้ปกครอง และคุณครูในปัจจุบัน ก็เติบโตมากับการเล่นการ์ดเกม ทำให้พวกเขาไม่ได้มองการ์ดเกมว่าเป็นเป็นการพนัน แต่การ์ดเกมช่วยสร้างรากฐาน และทักษะ ด้านกระบวนการคิด การวางแผน การวิเคราะห์ และการตัดสินใจ ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงๆ ในชีวิตประจำวัน ก็ยิ่งสร้างโอกาสให้การ์ดเกมทำการตลาดได้ง่ายยิ่งขึ้น
“การทำตลาดการ์ดเกมในประเทศไทยถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับ “คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” การเป็นผู้นำตลาดนับว่ายากแล้ว แต่การรักษาฐานลูกค้า และการขยายตลาดนั้นยากกว่า ภายใต้ความเชื่อมั่นว่าในประเทศไทยยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่ชื่นชอบการ์ดเกม ซึ่งเป็นเกมวางแผนแนวหนึ่งที่เหมาะกับคนที่ชอบการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ นอกจากจะทำให้เพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้รู้จักปรับตัว สร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำให้ได้รับความสนุกเพลิดเพลิน และได้สาระไปพร้อมๆ กัน” นายวีระศักดิ์ กล่าวในที่สุด