ผนึกกำลังวิจัยครั้งสำคัญ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ โนโว นอร์ดิสค์ ลงนาม MOU ขยายงานวิจัยทางคลินิก มุ่งจัดการ ‘โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก’ ลดภาระสุขภาพในประเทศไทย

Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 11 พฤศจิกายน 2568 โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด (“โนโว นอร์ดิสค์”) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อขยายขอบเขตงานวิจัยทางคลินิกภายในโรงพยาบาล โดยต่อยอดจากความสำเร็จของความร่วมมือเดิมที่พัฒนาการดูแลโรคอ้วนและโรคเบาหวานอย่างครบวงจรของโรงพยาบาลฯ บันทึกความตกลงฉบับนี้มีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในการบริหารจัดการและการรักษาโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ในประเทศไทย

Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research

ก้าวสำคัญสู่การดูแลสุขภาพแห่งอนาคต

พิธีลงนาม MOU ฉบับใหม่ภายใต้ชื่อ “Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research” หรือ “ก้าวไปด้วยกันสู่วันพรุ่งนี้: กำหนดอนาคตการดูแลโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิกผ่านงานวิจัยทางคลินิก” ในครั้งนี้ จัดขึ้นที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำที่ตั้งอยู่ในเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร นับเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างสององค์กร การลงนามความร่วมมือเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น มีประชากรมากกว่าร้อยละ 45 ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน และอย่างน้อย 6.1 ล้านคนที่เป็นโรคเบาหวาน ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงสร้างภาระด้านสุขภาพ แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ

Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research

การวิจัยทางคลินิก ถือเป็นรากฐานสำคัญของการดูแลสุขภาพ เพื่อให้สามารถนำวิธีการรักษาและระบบการให้ยาแบบใหม่ไปสู่ผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประเมินทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิผล การวิจัยทางคลินิกยังสร้างคุณค่าให้แก่ภาคส่วนทางการแพทย์และอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ล้ำสมัย และสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจผ่านการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและการสร้างงานในท้องถิ่น

โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก (Cardio Metabolic Diseases) จัดเป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดและเป็นสาเหตุของกันและกัน เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง โรคทางหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคไขมันพอกตับ และโรคไตเรื้อรัง การวิจัยทางคลินิกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการค้นหาวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อจัดการกับกลุ่มโรคที่มีความซับซ้อนนี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research

รศ. นพ. ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวเสริมว่า “MOU ฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญในความพยายามอันยาวนานของเราเพื่อพัฒนาการดูแลโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ในประเทศไทย ความพยายามของทางโรงพยาบาลในการรับมือกับโรคเบาหวานและโรคอ้วนได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการร่วมมือกันวิจัยเพื่อสร้างคุณค่าที่สำคัญในการจัดการกับสองโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) นี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติมั่นใจที่จะยกระดับความเชี่ยวชาญในสาขานี้ ในขณะที่เราก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการมอบการดูแลแบบองค์รวมที่ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้นแก่ประชาชน”

Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research

รศ. พญ. อัจฉรา ตั้งสถาพรพงษ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “เรามีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเพิ่มพูนและต่อยอดองค์ความรู้ผ่านงานวิจัยทางคลินิก เพื่อนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ที่กำลังเป็นที่น่ากังวลได้อย่างตรงจุด พร้อมกันนี้ ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานและสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ประชากรในประเทศ ด้วยความร่วมมือและทำงานร่วมกันในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างอนาคตที่ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิกได้”

Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research

นายจิฮาน เซอร์ดาร์ คิซิลจิก ผู้จัดการทั่วไปของโนโว นอร์ดิสค์ กล่าวว่า “โนโว นอร์ดิสค์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทดลองทางคลินิก เนื่องจากเรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ดีขึ้น โดยในช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2566 โนโว นอร์ดิสค์ มีการเติบโตในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย ถึงร้อยละ 25 ต่อปี และระหว่างปีพ.ศ. 2562 – 2566 บริษัทได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นเงิน 370 ล้านบาท ในการจัดการกับภาวะสุขภาพที่ซับซ้อน เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก การวิจัยทางคลินิกเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ขยายองค์ความรู้ร่วมกัน แต่ยังรวมถึงการรับรองความปลอดภัยของผู้ป่วยอีกด้วย เรามั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยทุกคน”

Together Towards Tomorrow: Shaping the Future of Cardio-Metabolic Care Through Clinical Research

ภายในงานยังมีการนำเสนอผลการวิจัยทางคลินิกที่ดำเนินการโดย โนโว นอร์ดิสค์ และนิทรรศการเชิงโต้ตอบที่ให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการวิจัยโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคทางเมแทบอลิก ความร่วมมือระหว่าง โนโว นอร์ดิสค์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ถูกกำหนดให้เป็นกลไกขับเคลื่อนการวิจัยทางคลินิกต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการค้นหาวิธีการรักษาและการจัดการที่โรคมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ป่วยที่กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพที่รุนแรง องค์กรทั้งสองมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ทางการแพทย์และปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพผ่านงานวิจัยที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์และนวัตกรรม

You may also like

Leave a Reply