- เที่ยวบินใหม่ที่ให้บริการห้าวั
นต่อสัปดาห์ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการจัดส่งพั สดุได้รวดเร็วยิ่งขึ้นจากแหล่ งอุตสาหกรรมในประเทศไทยไปยั งตลาดสำคัญอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก - บริการขนส่งพัสดุทางอากาศที่มี
ความมั่นคงและน่าเชื่อถือช่ วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่ นและสามารถตอบสนองความต้ องการในการจัดส่งของลูกค้าแม้ต้ องรับมือกับความซับซ้อนของห่ วงโซ่อุปทาน - การจัดส่งที่รวดเร็วยิ่งขึ้
นและการขยายเวลาเข้ารับพัสดุ ช่วยมอบโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจที่ต้องการเชื่อมต่ อกับลูกค้าทั่วโลก - การขยายบริการขนส่งของยูพี
เอสประเทศไทยช่วยตอกย้ำความมุ่ งมั่นของยูพีเอสในการส่งเสริ มการค้าภายในเอเชียหลังการเปิ ดตัวเที่ยวบินของยูพี เอสประเทศเวียดนามและยูพี เอสประเทศญี่ปุ่นครั้งล่าสุด
ยูพีเอส (NYSE: UPS) บริษัทผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัวเที่ยวบินใหม่จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ (BKK) สู่ศูนย์กระจายพัสดุในเอเชีย (Hub) ของ ยูพีเอส ในเมืองเซินเจิ้น (SZX) ประเทศจีน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศ สำหรับธุรกิจในประเทศไทย
เที่ยวบินใหม่นี้ช่วยให้ลูกค้าของยูพีเอสในภาคตะวันออกและภาคกลางของประเทศไทยสามารถจัดส่งพัสดุถึงประเทศคู่ค้าชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้รวดเร็วและครอบคลุมยิ่งขึ้น รวมถึงขยายเวลาเข้ารับพัสดุซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการพัสดุส่งออกไปยังลูกค้าในประเทศเศรษฐกิจหลักทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ลูกค้าที่นำเข้าจะได้รับประโยชน์จากการนำส่งพัสดุที่เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสายการผลิต (production line) การจัดการสินค้าคงคลัง และการบริหารคำสั่งซื้อ
“ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อแผนการขยายธุรกิจของยูพีเอสไปทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว และเราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการขนส่งพัสดุทางอากาศที่มีความมั่นคง และน่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็วนั้นสำคัญต่อธุรกิจมากเพียงใด” รัสเซล รี้ด กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทยกล่าว
“เที่ยวบินนี้จะช่วยเชื่อมต่อลูกค้าของยูพีเอสในเขตอุตสาหกรรมของประเทศไทยกับประเทศคู่ค้าชั้นนำในภูมิภาคได้เร็วกว่าที่เคย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าข้ามพรมแดนสำหรับธุรกิจที่ใช้เครือข่ายและบริการจัดส่งพัสดุของยูพีเอส ไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงยุโรปและสหรัฐอเมริกา”
ข้อมูลจากการศึกษาเกี่ยวกับแนวโน้มการค้าภายในภูมิภาคเอเชีย (Intra-Asia Study) โดยยูพีเอสที่กำลังจะมีขึ้น ที่เล็งเห็นโอกาสสำคัญด้านการเพิ่มศักยภาพทางการค้าภายในเอเชียชี้ให้เห็นว่า ภาคการผลิตที่แข็งแกร่งและความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศที่มีมากขึ้น เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในเอเชีย ส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศไทยและตลาดหลักอื่นๆ ในภูมิภาคสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 550 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030
จังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการผลิตกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค ยานยนต์ และการค้าปลีกของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสำคัญสู่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มที่นำโดยรัฐบาลซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูและรองรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมของประเทศในอนาคต
“นี่เป็นปีที่สามติดต่อกันที่ยูพีเอสได้เปิดตัวเที่ยวบินเพิ่มเติมสู่เครือข่ายเอเชียแปซิฟิกของเรา หลังจากได้เพิ่มเที่ยวบินขาเข้าและขาออกไปยังฮานอยและนครโฮจิมินห์ในปี 2020 และ โอซาก้า คันไซ ในปี 2021 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมโอกาสทางการค้าระดับโลกสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค” มิเชลล์ โฮ ประธานกรรมการ ยูพีเอส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว
“ด้วยเที่ยวบินของยูพีเอสที่มีให้บริการเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการนำเข้าและส่งออกจากประเทศไทย จะช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับประโยชน์จากเครือข่ายของยูพีเอสในการขยายโอกาสทางธุรกิจข้ามพรมแดนที่กำลังเติบโตได้มากยิ่งขึ้น”
เที่ยวบินใหม่ของยูพีเอสจะให้