ศึกเจ็ตสกีเวิลด์คัพ ประกาศความสำเร็จสมบูรณ์แบบในฐานะต้นแบบงานกีฬาซอฟต์พาเวอร์ไทย และสปอร์ตทัวริซึ่ม “WGP#1 Waterjet World Cup, Thailand Grand Prix 2023” พร้อมจัด 13-17 ธันวาคม 2566 ณ หาดจอมเทียน เมืองพัทยา และก้าวขึ้นเป็นคอนเท้นท์กีฬาเจ็ตสกีพรีเมี่ยม อันดับที่ 1 ของโลก ที่สร้างประโยชน์หลักชาติไทย 4 ด้าน ได้แก่ นำเข้าผู้ร่วมกิจกรรมจากทั่วโลกกว่า 3,000 คน เติบโตขึ้นเทียบชั้น “มหกรรมกีฬา” สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน, ประชาสัมพันธ์เมืองไทยโดยถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม 121 ประเทศ ผู้ชมกว่า 100 ล้านคน, นำกีฬาไทยขึ้นเป็นแบรนด์กีฬาความเร็วโลก และยกระดับสร้างชื่อเสียงชาติไทยในฐานะผู้บริหารกีฬาโลก
จากการแถลงข่าวร่วมกันของ คุณณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, คุณสุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, คุณ วีรพงศ์ พงศ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, คุณวงศ์สถิตย์ สุวรรณสุทธิ ผู้จัดการฝ่ายตลาดหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย และ พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ในฐานะประธานอำนวยการ จัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า
“WGP#1 โมเดล” เป็นโมเดลการพัฒนาแบรนด์ทัวร์นาเม้นท์กีฬาไทย เพื่อให้เกิดการเติบโตด้านทรัพย์สินทางปัญญา และพัฒนากีฬาไทยสามารถแข่งขันกับนานาชาติได้อย่างยั่งยืนบนเวทีโลก ขณะนี้ กล่าวได้ว่า ทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 Waterjet World Cup, Thailand Grand Prix 2023 ที่จะเริ่มแข่งขันวันที่ 13-17 ธันวาคม 2566 ณ เมืองพัทยา ประเทศไทย ได้ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ สร้างความเชื่อถือต่อคณะนักกีฬา ได้รับความสำคัญเป็นทัวร์นาเม้นท์กีฬาเจ็ตสกี อันดับที่ 1 ของโลก อย่างเป็นทางการแล้ว มีจำนวนทีมแข่งนานาชาติ นักกีฬามือหนึ่งของโลกมากกว่าทุกๆ ทัวร์นาเม้นท์
ทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 ของไทย กำลังมีอิทธิพลด้านซอฟต์พาวเวอร์ครอบคลุมกว่า 55 ชาติ ในการแข่งขันบนทวีปต่างๆ ประเทศไทยมีเครื่องมือการขยายงานที่สำคัญคือ “การเป็นเจ้าของทัวร์นาเม้นท์ เจ็ตสกีเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก” หรือ “World Series” ที่จัดบนทวีปหลักของโลก 3 ทวีป ได้แก่ ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา และทวีปเอเชียที่ประเทศไทย โดยขณะนี้ WGP#1 ได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ควบคุมนโยบายการแข่งขันกีฬาเจ็ตสกีทั่วโลกในปัจจุบัน
งานหลักที่ขับเคลื่อนเป็นสิ่งแรก ก็คือ สนามตัดสินชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นคอนเท้นท์ที่ดีที่สุดในโลก ต้องอยู่ที่ประเทศไทย เพื่อนำเข้าทีมงานรวมกว่า 3,000 คน และสามารถสร้างการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของภาครัฐด้วย ที่จะผลักดันเป็นโครงการสปอร์ตทัวริซึ่ม ที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายรัฐบาล ยังไม่รวมด้านผู้ชมอีกกว่า 5,000 คน ใน 4 วัน จึงเท่ากับทัวร์นาเม้นท์กีฬาครั้งนี้ จะขับเคลื่อนผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 8,000 คน
การเติบโตนี้พัฒนาถึงขั้น “มหกรรมกีฬานานาชาติ” แล้ว ตอบสนองด้านการสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้ดี เป็น 1 ใน 4 เป้าหมายของ WGP#1 ด้านที่ 2 คือ การสร้างโอกาสประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปบนเวทีโลก โดยถ่ายทอดสดออกไป 121 ประเทศ มีผู้ชมกว่า 100 ล้านคน ด้านที่ 3 นำกีฬาไทยขึ้นเป็นแบรนด์กีฬาความเร็วโลก ซึ่งสร้างประโยชน์ต่อยอดได้อีกหลายมิติ และด้านที่ 4 ยกระดับสร้างชื่อเสียงของชาติไทย ในฐานะผู้บริหารกีฬาโลก สร้างเกียรติยศด้านกีฬาอย่างสูง ทั้งหมดเป็นความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น ขอขอบคุณการสนับสนุนของ การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, โตโยต้า, การบินไทย, สยามวอเตอร์คราฟ, เทอมินอล 21, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), ฟรีด้อมเรซซิ่ง, JETPILOT โรงแรมดิวารี, เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี, สมาคมกีฬาเจ็ตสกีโลก IJSBA และสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย