จบลงไปแล้วอย่างสวยงามแบบสมการรอคอย กับคอนเสิร์ตในรอบ 7 ปีของตัวพ่อ Alternative R&B แห่งประเทศเกาหลีใต้ อย่าง “DEAN” ซึ่งงานนี้พิเศษกว่าทุกครั้งเพราะดีนไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับ “Tabber” ศิลปิน Alternative R&B ดาวรุ่งมาแรงเจ้าของเสียงทรงเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ กับงาน “DEAN with Tabber Live in Thailand” โดยงานนี้ถูกจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 ณ CENTERPOINT STUDIO สุขุมวิท 105 (ซ.ลาซาล) ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับสุดอบอุ่นจากแฟน ๆ เต็มพื้นที่การแสดง โดยทีมผู้จัดอย่าง “BEX” บริษัทอีเว้นท์ออกาไนเซอร์ในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป ร่วมกับ “you.will.knovv” / “Universal Music Group” / “Altus Prohouse” / “YJ PARTNERS” และ “PROUD2” ก็จัดเต็มโปรดัคชั่น แสง สี เสียง พร้อมให้แฟนคลับได้สัมผัสกับ “ความพิเศษ” ของตัวพ่อ Alternative R&B แบบหูเคลือบทองตั้งแต่ต้นจนจบ
เปิดด้วย “Tabber” กับบทเพลง “Healing Killing” / “Baby Doll” / “Shut the f**k up, that’s mine” และ “Being” เรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นฮอลล์ ก่อน Tabber จะแวะทักทายแฟนคลับอย่างอบอุ่น และจัดเต็มโชว์ด้วยเพลงฮิตอย่างต่อเนื่อง อาทิ “Electric Animal” / “Look at my” / “Honey!” / “Adrenaline” ให้ฟังกันแบบนอนสต็อป นับเป็นศิลปินคุณภาพที่หาทางแนวทางของตัวเองเจออย่างรวดเร็ว
ก่อนส่งต่อเวทีให้กับ “DEAN” ในเพลง “Come Over” / “Bermuda Triangle” ของ ZICO ที่ดีนได้ไป feat โดยครั้งนี้ได้นำมาทำเป็นเวอร์ชั่น Remix ตามด้วย “Pour Up” ก่อนจะแวะทักทายแฟน ๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งงานนี้ดีนยังได้ขนเพลงเพราะพร้อมเสียงคุณภาพมาฝากอีกหลายบทเพลง อาทิ “Howlin’ 404” / “Bonnie & Clyde” / “Put My Hands On You” / “21” และ “DIE 4 YOU” ซิงเกิลล่าสุดซึ่งเพิ่งได้รับรางวัล R&B Track of the year จากงาน Korean Hiphop Awards 2024 ไปสด ๆ ร้อน ๆ งานนี้ฟินและเต็มอิ่มกันถ้วนหน้า พิเศษมากกว่านั้นในบางบทเพลงอย่าง “Love (jazz festival ver)” ก็ได้ทำเป็นเวอร์ชั่นใหม่สำหรับทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้โดยเฉพาะอีกด้วย และเพลงสุดฮิตที่แฟนไทยชอบกันมาก ๆ อย่าง “D (half moon)” และ “instagram” ดีนก็ไม่พลาดที่จะแสดงให้แฟนชาวไทยได้ฟังกัน ร้องตามกันได้ทั้งฮอลล์
ก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายของคอนเสิร์ตกับพาร์ทที่แฟนทุกคนรอคอยกันมากที่สุด กับการแสดงร่วมกันของ “DEAN” และ “Tabber” กับเพลง “007” / “3AM Freestyle” และ “Chi-ka” ซิงเกิลใหม่ล่าสุดที่มาพร้อม Live Performance ทรงพลัง ใจฟูไปตาม ๆ กัน และเข้าสู่ช่วง Encore กับบทเพลงส่งท้ายอย่าง “I’m Not Sorry” โดยตลอดทั้งคอนเสิร์ตได้มีบูธดีเจร่วมสร้างสรรค์ดนตรีคุณภาพด้วย Vibe ดี ๆ ตลอดทั้งงาน ส่งผลให้เวลาของคอนเสิร์ตได้จบลงไปอย่างรวดเร็ว
ขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ได้มาร่วมสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน จนกว่าจะพบกันใหม่ โดยสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ X: @BEX_Concert