ครั้งแรก! กับเทศกาลอาร์ตทอย “Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น” ที่รวบรวมศิลปินไทยรุ่นใหม่และสตูดิโออาร์ตทอยไทยกว่า 85 ศิลปิน/สตูดิโอ เพื่อแสดงศักยภาพของศิลปินไทยด้วยการนำเสนออาร์ตทอยที่เล่าเรื่องเมืองไทยในแง่มุมที่หลากหลาย ทั้งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วรรณคดี ตำนาน และ ความเชื่อ รวมทั้งสินค้าหมวด Soft Power ทอล์คถอดรหัสความสำเร็จของศิลปินอาร์ตทอยไทย และอาร์ตทอยคอลเล็กชันพิเศษสุดภายในงาน
Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น โดยการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ DDD Collectible Art Toys จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ที่ ICON Art & Culture Space ชั้น 8 ICONSIAM และพิเศษสุดคือการเปิดตัว “อาร์ตทอยสัตว์วิเศษ 5 ภูมิภาค” และ “NFT Travel Guide เที่ยวไทยตามรอยสัตว์วิเศษและถิ่นที่อยู่ ไกด์บุ๊คท่องเที่ยวฉบับ Smart Traveler ที่ชวนเที่ยวไทยตามรอยสัตว์วิเศษและถิ่นที่อยู่และเก็บ NFT เพื่อนำมาแลกรับส่วนลดพร้อมสิทธิพิเศษด้านการท่องเที่ยวมากมาย
คุณอมร ทองธิว ผู้บริหารบริษัทวิริยะธุรกิจ ในฐานะผู้จัดงาน Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่า “ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่ากระแสอาร์ตทอยกำลังมาแรงมากๆ ในประเทศไทย มีศิลปินอาร์ตทอยรุ่นใหม่จำนวนมากเกิดขึ้น แต่อาจจะขาดพื้นที่ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ ยิ่งเจาะลงไปในกลุ่มของศิลปินไทยที่สร้างสรรค์งานเล่าเรื่องเกี่ยวกับประเทศไทยด้วยแล้วก็ยิ่งพบว่าศิลปินกลุ่มนี้มีศักยภาพมากๆ เราจึงไม่อยากให้ศิลปินรุ่นใหม่เหล่านี้เก็บของดีไว้กับตัว เลยอยากชวนมาปล่อยของแสดงศักยภาพในงาน Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น ถือว่าเป็นครั้งแรกสำหรับเทศกาลงานอาร์ตทอยในประเทศไทยที่ชวนกันมาเล่าเรื่องเมืองไทยโดยเฉพาะ แต่ละคนก็จะหยิบมุมมองเกี่ยวกับประเทศไทยในประเด็นที่ต่างกันออกไปมาเล่า และพอเรื่องเล่าเกี่ยวกับประเทศไทยถูกตีความผ่านอาร์ตทอยที่ใส่เรื่องดีไซน์ความสวยงามลงไปก็จะยิ่งทำให้คนที่ได้เห็น ได้สะสม อยากจะรู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้นตามรอยอาร์ตทอยที่แต่ละคนชื่นชอบ”
ในงาน Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น ครั้งนี้ ทาง ททท. เล็งเห็นถึงศักยภาพของ “อาร์ตทอย” ซึ่งถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่กำลังมาแรงมาก จึงชวนออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยอาร์ตทอยคอลเล็คชันพิเศษ “อาร์ตทอยสัตว์วิเศษ” เป็นตัวแทนจาก 5 ภูมิภาค และ สัตว์วิเศษตัว Secret ที่ทำหน้าที่เป็นไกด์ทัวร์นำเที่ยวประจำท้องถิ่น โดยสัตว์วิเศษทั้ง 6 ตัวเปิดให้ได้หมุนกาชาปองกันในจำนวนจำกัดเฉพาะในงานนี้เท่านั้น
สัตว์วิเศษตัวแทนภาคเหนือ คือ “จระเข้ใส่เสื้อชาละวัน ห้อยพระเครื่อง” ต้นแบบมาจากพญาชาละวันแห่งบึงสีไฟ จ.พิจิตร และ พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า พระเครื่องขนาดจิ๋วชั้นนำที่สุดของเมืองพิจิตร ส่วนภาคใต้เป็น “พะยูนถือหมูย่าง” ต้นเบบมาจากพะยูน จ.ตรัง สัตว์อนุรักษ์ประจำจ.ตรัง และ หมูย่างเมืองตรัง ถัดมาภาคตะวันออก คือ “ม้านิลมังกรสวมหมวกทุเรียน” ต้นแบบมาจากม้านิลมังกร อนุสาวรีย์สุนทรภู่ จ.ระยอง ที่มาพร้อมทุเรียนระยอง ผลไม้ขึ้นชื่อของ จ.ระยอง ตัวแทนภาคกลางคือ “วาฬบรูด้าบนเข่งปลาทู” ต้นแบบมาจากวาฬบรูด้า จ.สมุทรสาคร และเข่งปลาทู สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของอ่าวไทย และศูนย์กลางอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็น “พญาคันคากถือหมอนขิด” ต้นแบบมาจากพิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จ.ยโสธร และผลิตภัณฑ์หมอนขิด วิถีชีวิตและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาของภาคอีสาน และพิเศษสุดคือ ตัว Secret “นาคสีชมพูบนถ้วยขนมสาลี่” ต้นแบบมาจากประติมากรรมดินเผารูปนาค ศิลปะทวารวดี พบที่เมืองโบราณอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และขนมสาลี่ ของฝากขึ้นชื่อแห่งสุพรรณบุรี
“ททท. ได้จัดทำ “แผนที่เที่ยวไทยตามรอยสัตว์วิเศษทั่วไทย” ซึ่งจะเป็นการเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่โดยสัตว์วิเศษประจำถิ่นเหล่านี้อาจจะไม่ได้อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์ค แต่นั่นก็ทำให้เราได้ค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้ต่อยอดอาร์ตทอยสัตว์วิเศษสู่ NFT Travel Guide เที่ยวไทยตามรอยสัตว์วิเศษและถิ่นที่อยู่ ไกด์บุ๊คท่องเที่ยวฉบับ Smart Traveler ที่นำของดีประจำท้องถิ่นและสัตว์วิเศษประจำถิ่นเข้าสู่โลกของ NFT กระตุ้นให้กลุ่ม Smart Traveler ออกเดินทางไปเก็บ NFT ที่ซ่อนอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยว ชุมชนต่างๆ แล้วนำมาแลกรับส่วนลด โวเชอร์จากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวกว่า 50 แห่ง ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดกันในงานนี้ด้วยเช่นกัน” คุณนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงโปรเจกต์กระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านอาร์ตทอยและ NFT
ด้านคุณสุมา วงษ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในการจัดงานครั้งนี้ว่า ไอคอนสยาม มีความยินดีที่ได้ร่วมจัดงาน Thai Art Toy Fest ซึ่งได้นำงานศิลปะอย่างอาร์ตทอย ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินไทยมาจัดแสดงให้ทุกคนได้ชื่นชมผลงานในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ผ่านงานอาร์ตทอย ยังเป็นการสนับสนุนส่งเสริมศิลปินไทยที่มีศักยภาพได้มีพื้นที่แสดงผลงานสู่สายตาสาธารณชนได้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งเป็นการยกระดับผลงานด้านศิลปะของศิลปินไทยให้สามารถต่อยอดไปสู่เวทีระดับโลก สอดคล้องกับแนวคิดหลักของไอคอนสยามในการ “นำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก” ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของไอคอนสยาม ในการส่งเสริมศิลปินไทย ตลอดจนการนำงานศิลปะระดับโลกมาจัดแสดงให้คนไทยได้ชื่นชม และมีประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกัน ณ ICONSIAM ART & CULTURE
“ไอคอนสยาม มีศักยภาพของพื้นที่ที่เป็นเดสติเนชันของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะต้องมาเยือน มาบรรจบกับศักยภาพของศิลปินอาร์ตทอยรุ่นใหม่ๆ ของไทย ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวเองก็มองหาของที่ระลึก ของสะสมที่เกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยอยู่แล้ว นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้มาเจอกับเรื่องราวของประเทศไทยในแง่มุมที่แตกต่างออกไป ได้ฟังเรื่องเล่าเมืองไทยจากศิลปินที่มาร่วมงาน ซึ่งหลังจบงานนักท่องเที่ยวจะได้พิกัดเที่ยวไทยใหม่ๆ ให้ได้ออกเดินทางอีกมาก หรือไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นงานอาร์ตทอยของไทยจากงานนี้ไปโด่งดังในต่างประเทศหลังจบงานก็เป็นได้” คุณสุมากล่าว
ภายในงานยังมีผลงานโชว์เคสจาก DDD Collectible Art Toys ในธีม “Let’s camping with your toys” เป็นการนำเรื่องการท่องเที่ยวและการตั้งแคมป์มาผสมผสานกับอาร์ตทอย และผลงานของ ม็อตลี่ สตูดิโอ ที่ให้บริการการผลิตอาร์ตทอยครบวงจรตั้งแต่การถ่ายทอดจินตนาการสู่ภาพสามมิติจนถึงผลิตชิ้นงานต้นแบบที่จับต้องได้
“เราเปิดโอกาสให้ศิลปินแต่ละท่านได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตนผ่านผลงานอาร์ตทอยที่สร้างสรรค์ขึ้นซึ่งไม่เพียงแค่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบงานสะสมเท่านั้น หากยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ศิลปินเหล่านี้ได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย นอกจากนี้ผลงานบางส่วนของม็อตลี่ สตูดิโอ ได้นำมาจัดแสดงด้วยเพื่อให้ผู้ชมสามารถสัมผัสคุณภาพของการพิมพ์และการลงสีได้อย่างใกล้ชิด และเป็นการประกาศศักยภาพของการผลิตอาร์ตทอยในประเทศไทยว่ามีคุณภาพไม่แพ้ที่ใด” คุณประสงค์ คชพันธุ์ ผู้บริหาร DDD Collectible Art Toy กล่าวถึงศักยภาพของศิลปินและสตูดิโออาร์ตทอยไทย
คุณคมกฤษ เทพเทียน หนึ่งในศิลปินผู้บุกเบิกอาร์ตทอยที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ไทย ย้ำถึงศักยภาพของศิลปินอาร์ตทอยไทยว่า “ตลาดอาร์ตทอยในไทยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็เริ่มสามารถพัฒนาและปรับประยุกต์เรื่องราว และที่มาต่างๆจากศิลปวัฒนธรรมของไทยเองได้อย่างสนุกและสร้างสรรค์ เริ่มมีรูปแบบเฉพาะเป็นของเราเอง ศิลปินรุ่นใหม่ๆ มีศักยภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดีมากๆ ที่ผ่านมาอาจจะขาดพื้นที่ ขาดแรงสนับสนุน ซึ่งครั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆท่าน ที่สนับสนุนพื้นที่ สนับสนุนผลงานของพวกเรา ทำให้นักสร้างสรรค์ได้มีโอกาสในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และฝีมือจากการผลิตสินค้าต่างๆ และก็หวังว่าศิลปินอาร์ตทอยไทยจะได้มีโอกาสในการปล่อยของแบบนี้อีกในอนาคต”
ภายในงานยังมีเวิร์คช็อป “มูเตทอย” ทำอาร์ตทอยสัตว์วิเศษจากมวลสาร “ผงธูป” นำผงธูปจริงจากวัด/ศาลเจ้าดัง จากทั่วประเทศ มารียูสด์สร้างชีวิตใหม่ให้กลายเป็นอาร์ตทอยสัตว์วิเศษ มังกร สิงห์ รวมทั้ง “พญาคันคาก” ที่อยู่ในตำนานพื้นถิ่นแดนอีสาน และ เวิร์คช็อป “Model Painting Workshop by Vallejo” โดย 3 ศิลปินอาร์ตทอยไทย Kuma bear, Sloth Doll และ Kappa มาเปิดคลาส Art Toy 101 พิเศษกับ กิจกรรม “แสตมป์พาเที่ยว” ชวนเก็บแสตมป์ดิจิทัล Airdrop Collection ชุดที่ 2 จากไปรษณีย์ไทยให้ได้สะสมกัน 4 แบบในชุด “Travel Stamp เที่ยวไทยให้ใจฟู” โดยไปรษณีย์ไทย X Coral ที่จะมาเปิดตัวในงาน Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น
อีกหนึ่งไฮไลต์คือการเปิดตัวฟิกเกอร์นักมวยปล้ำไทย Monomoth เจ้าของฉายา Smiling Angel นักมวยปล้ำชายที่สวยที่สุดในโลก และเป็นครั้งแรกที่ Monomoth มาเปิดตัวอาร์ตทอยพร้อมแจกลายเซ็น นอกจากนี้ ปูมิ-ปรัชญ์ภูมิ บุณยทัต ประธานสมาคมมวยปล้ำ SETUP Thailand Pro Wrestling มาร่วมเปิดเวทีทอล์คเรื่องประวัติศาสตร์มวยปล้ำกับเมืองไทย รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์มวยปล้ำไทยที่โด่งดังระดับโลก พร้อมด้วย Matcha & Jeney ไอดอลหญิงที่ผันตัวมาเป็นนักมวยปล้ำ และ Monomoth นักมวยปล้ำชายที่สวยที่สุดในโลก
สำหรับเวทีทอล์ค ศิลปินอาร์ตทอยไทยที่โด่งดังทั้งในไทยและต่างประเทศได้แก่ Porin, Greenie & Elfie, MOTMO Studio และ Shew Sheep มาร่วมแชร์ประสบการณ์ในหัวข้อ “ถอดรหัสความสำเร็จศิลปินอาร์ตทอยไทย” และส่วน NFT ว่าด้วยเรื่อง “ศิลปะที่ถูกเปลี่ยนถ่ายสู่โลก NFT และ กระแส NFT ในปัจจุบัน”
“Thai Art Toy Fest : สยามเด็กเล่น” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 ที่ ICON Art & Culture Space ชั้น 8 ICONSIAM ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เข้าร่วมงานฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB/IG: thaiarttoyfest